กินเจ กินอะไรได้บ้าง ห้ามกินอะไรบ้าง มาดูกัน !!
กินเจ กินอะไรได้บ้าง ห้ามกินอะไรบ้าง และเคล็ดลับในการกินเจอย่างถูกวิธี!
สำหรับหลายคนที่กำลังเริ่มกินเจ แล้วสงสัยว่า กินเจ กินอะไรได้บ้าง หรือห้ามกินอะไรบ้าง โพสนี้มีคำตอบค่ะ เทศกาลกินเจ 2566 จะเริ่มต้นในวันที่ 15 ตุลาคม และสิ้นสุดในวันที่ 23 ตุลาคม ผู้ที่กินเจจะงดเว้นเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไข่ นม ผลิตภัณฑ์จากนม และผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย และผักชี
การกินเจเป็นวิธีทำบุญที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เราลองพยายามงดเว้นเนื้อสัตว์และอาหารที่มาจากสัตว์ เป็นเวลาแค่ 10 วัน ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการลดการเบียดเบียนสัตว์ และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของเราอีกด้วย
กินเจคืออะไร
กินเจ คือการงดรับประทานอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์, ไข่, นม หรือผักที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ ถือศีลกินเจเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณของชาวไทยเชื้อสายจีน โดยมีความเชื่อว่าเป็นการรักษาสุขภาพที่ดี พร้อมทั้งชำระจิตใจให้บริสุทธิ์
ประโยชน์ของการกินเจ : การกินเจเป็นแนวทางการรับประทานอาหารที่งดเว้นเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาหารเจมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นอกจากนี้ การกินเจยังช่วยลดการเบียดเบียนสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ประวัติของการกินเจ
ประวัติการกินเจนั้นมีหลายตำนานเล่าขานกัน แต่ที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุดคือ ตำนานเกี่ยวกับกลุ่มทหารชาวบ้านที่ชื่อว่า “หงี่หั่วท้วง” ซึ่งต่อต้านการปกครองของกองทัพแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิง ทหารเหล่านี้จะถือศีลกินเจ งดเว้นเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน นุ่งขาวห่มขาวประกอบพิธีกรรม เชื่อว่าจะช่วยเสริมกำลังใจและป้องกันปืนไฟของกองทัพแมนจูได้
การกินเจ (Vegetarian Festival) เป็นเทศกาลทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีกำเนิดในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ตและพุทธศาสนาที่ตานิมุย (Mahayana Buddhism) ที่มีการเลียนแบบการกินเจของจีน (Chinese Vegetarian Festival) โดยมีลักษณะที่คนที่รู้เรื่องเรียกว่า “เทศกาลเจ” หรือ “เทศกาลกินเจ.”
ประวัติของการกินเจได้มาจากประวัติศาสตร์และศาสนาแต่งแต้มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและที่ผ่านมา:
- จุดเริ่มต้น: การกินเจเริ่มขึ้นในภูเก็ต ประเทศไทย ประมาณสมัย 1825 โดยมีต้นกำเนิดจากการเรียนรู้ของชาวในชุมชนจีนที่อยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งการกินเจกลายการรักษาหรือศีลของพระเจ้าตานิมุย ผู้นำทางพุทธศาสนาของชาวจีน ที่วัดจุทรเขต เกาะภูเก็ต ในช่วงศตวรรษ 19 ของศตวรรษที่ 19.
- ประเทศไทย: เทศกาลการกินเจเป็นการสืบสานสืบผ่านมาตลอดเวลาในภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากภูเก็ต ยังมีการเฝ้ารอความสงบสุขของจิตใจผ่านการตั้งศาลาพระทรรหารและแชนยารวมเกิดภูเก็ต เจติลา ต่างๆ ในช่วงเทศกาลนี้.
- รายละเอียดของการเฝ้ารอ: ชุมชนที่ร่วมเฝ้ารอการกินเจจะรักษาการบริหารพระราชทานอาหารที่เป็นอาหารเจ และดำเนินพิธีกรรมพระบริหารต่างๆ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติอีกหลายอย่างเพื่อสุขาภิบาลตนเองและชุมชน. การเดินขบวนเป็นส่วนสำคัญในเทศกาลนี้ โดยมีผู้เคลื่อนไหวและเต้นรำในชุดกางเกงและเสื้อที่เป็นสีขาวหรือสีน้ำเงิน.
- ความเชื่อ: การกินเจมีเชื่อว่าการรักษาการเฝ้ารอนี้จะช่วยขจัดบาป ล้างคนผิดเป็นบาปและประมาณบุญพระที่สูง และช่วยให้คนเป็นบริสุทธิ์และมีโชคดี.
เทศกาลการกินเจมักจัดขึ้นในเดือนปลายๆของปี ตามปฏิทินจีน โดยจะมีขบวนแห่งขับเคลื่อนและกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ตามมา. เทศกาลนี้นอกจากจะมีความสำคัญในด้านศาสนาแล้วยังมีความสำคัญในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง.
เทศกาลกินเจในประเทศไทยนั้นสืบทอดมาจากชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย โดยมีการถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ในช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติ ในช่วงเทศกาลกินเจ ชาวไทยเชื้อสายจีนจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ไหว้เจ้า กินเจ และบริจาคทาน
ในปัจจุบัน เทศกาลกินเจได้กลายเป็นประเพณีที่แพร่หลายในประเทศไทย ผู้คนจากทุกเชื้อชาติต่างก็ร่วมถือศีลกินเจเพื่อเสริมสร้างบุญบารมี รักษาสุขภาพ และลดการเบียดเบียนสัตว์
กินเจห้ามกินอะไรบ้าง
งดเว้น เนื้อสัตว์และอาหารที่มาจากสัตว์ รวมไปถึงผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย และผักชี
ตัวอย่างสิ่งที่ห้ามกินในช่วงกินเจ
- เนื้อสัตว์ทุกชนิด ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อปลา อาหารทะเล
- ผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย และผักชี
- ไข่ทุกชนิด
- อาหารที่มีส่วนผสมของไข่ นม น้ำมันจากสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เต้าหู้ไข่ บะหมี่ไข่ ขนมปัง เค้ก เนยแท้ วิปครีม น้ำมันหมู นม เนย ชีส โยเกิร์ต ไอศกรีม น้ำผึ้ง
- เครื่องปรุงรส ที่มีส่วนผสมของสัตว์ เช่น น้ำปลา น้ำมันหอย ผงปรุงรส หมู และ ไก่ เป็นต้น
- งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ และสิ่งของมึนเมา เช่น บุหรี่, ยาเส้น, ของเสพติดมึนเมา
- งดเว้นการกินอาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด เค็มจัด เพราะถือว่าจะเข้าไปทำลายสุขภาพ แต่ข้อนี้บางคนที่ปฏิบัติไม่เคร่งครัดนักก็ยังสามารถทานได้อยู่ เช่น ชอบรสเค็มจัดก็ใช้เกลือแทนน้ำปลา อันนี้ถือว่าไม่ผิด
กินเจกินอะไรได้บ้าง
อาหารที่กินได้ในช่วงกินเจนั้นมีมากมาย แค่ไม่ทานอาหารที่ห้ามดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็สามารถทานได้แทบทั้งสิ้น ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีโปรตีนเทียม หรืออาหารทดแทนที่ทำเลียนแบบอาหารต่างๆ ที่มีทั้งความเหมือนทั้งด้านรสชาติ และสารอาหาร รวมถึงหน้าตาก็น่ากินอีกด้วย เช่นเนื้อเป็ดเทียม หมูเทียม วันนี้ เราลองมาแบ่งอาหารเจที่สามารถกินได้ ตามประเภทของสารอาหารกันดูค่ะ ว่ามีอะไรที่กินได้บ้าง
โปรตีน : ในขณะที่เรากินเจนั้น เราสามารถได้รับโปรตีนจากการทานอาหารประเภทธัญพืช และถั่วต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ขาว นมถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งให้โปรตีนชั้นดี และยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ตัวอย่างเมนูอาหารเจที่มีโปรตีนสูง
- ต้มจืดเต้าหู้
- ข้าวผัดเห็ด
- ผัดคะน้าเต้าหู้
- แกงเขียวหวานถั่วเหลือง
- ขนมจีนน้ำยาป่า
คาร์โบไฮเดรท : อาหารเจเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงอยู่แล้ว เนื่องจากมีการใช้ข้าว เส้นหมี่ และอาหารประเภทแป้งเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารเจหลายชนิด นอกจากนี้ เมนูของทอดก็เป็นที่นิยมในช่วงกินเจ ซึ่งก็ล้วนแต่มีปริมาณแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่สูงเช่นกัน
เกลือแร่ หรือแร่ธาตุ : สารอาหารเหล่านี้ มีอยู่ในผักต่างๆ แทบทุกชนิด ผักต่างๆ เป็นแหล่งที่ดีของแร่ธาตุหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี ทองแดง เป็นต้น
ผักที่มีแร่ธาตุสูง
- แคลเซียม: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม บรอกโคลี กะหล่ำปลี
- เหล็ก: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ตำลึง ใบตำแย ถั่วต่างๆ
- แมกนีเซียม: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ถั่วต่างๆ
- โพแทสเซียม: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ถั่วต่างๆ ผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอ แตงโม
- สังกะสี: ถั่วต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี เมล็ดพืช
- ทองแดง: ถั่วต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
วิตามิน : อาหารช่วงกินเจ ที่อุดมไปด้วยวิตามินได้แก่ ผลไม้ นั่นเองค่ะ ผลไม้เป็นที่รู้จักว่ามีสารอาหารสูงและมีวิตามินมากมายที่สามารถเพิ่มในร่างกายของคุณได้. แต่วิตามินที่มีในผลไม้แต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ดังนั้นการรับประทานผลไม้หลายชนิดจะช่วยให้ร่างกายคุณได้รับวิตามินที่หลากหลายและสมดุลนะคะ
ไขมัน : อาหารเจเป็นอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง แต่จะเน้นไปที่ไขมันจากพืช เนยเทียม และครีมเทียม ไขมันจากพืชมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าไขมันจากสัตว์ แต่อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ควรรับประทารแต่พอดีนะคะ
เครื่องปรุงเจ : เครื่องปรุงเจมีให้เลือกทานหลากหลายยี่ห้อ ทั้งแบบปกติและแบบลดโซเดียม สามารถหาซื้อได้ตามใจชอบ แต่อย่าลืมสังเกตุเครื่องหมายธงเจ สีแดงเหลือง ที่ฉลากนะจ๊ะ เครื่องปรุงเจที่มีเครื่องหมายธงเจ สีแดงเหลือง นั้น เป็นเครื่องปรุงเจที่ผ่านการรับรองจากสมาคมอาหารเจแห่งประเทศไทย ว่าผลิตจากวัตถุดิบเจ และปราศจากส่วนผสมของสัตว์ทุกชนิด
อาหารเจกับอาหารมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
- อาหารมังสวิรัติ: งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่สามารถรับประทานไข่และผลิตภัณฑ์จากนมได้
- อาหารเจแบบเคร่งครัด: งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงไข่และผลิตภัณฑ์จากนม
คำแนะนำเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มกินเจ ควรเริ่มจากการงดเนื้อสัตว์ก่อน จากนั้นค่อยๆ ลดการรับประทานไข่และนม เพื่อป้องกันอาการขาดสารอาหาร นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน
สำหรับผู้ที่กำลังรับประทานอาหารเจเพื่อสุขภาพเป็นหลัก การกินเจแบบไม่เคร่ง ไม่ได้ถือศีลหรือปฏิบัติตามหลักต่างๆ มากมายนัก ก็ไม่ได้ผิดอะไร ถือเป็นทางเลือกสุขภาพของแต่ละบุคคล การกินเจแบบไม่เคร่ง มีข้อดีคือ ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยไม่จำกัดเฉพาะอาหารเจเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้รับประทานอาหารเจรู้สึกสบายใจและมีความสุขกับการรับประทานอาหารมากขึ้น
สำหรับมือใหม่ ในการกินเจนั้น เดี๋ยวนี้ต้องบอกว่าสะดวกมากๆ เพราะนอกจากอาหารเจที่มีขายอยู่ทั่วไปมากมายในช่วงเทศกาลกินเจ ที่มีรสชาติอร่อย และถูกต้องตามหลักการกินเจแล้ว ตามร้านสะดวกซื้อยังมีอาหารเจมากมายให้เราเลือกซื้อมารับประทานอีกด้วย ขอให้หลายท่านที่กำลังเริ่มต้นกินเจ มีความสุขกับการกินเจนะคะ เพราะนอกจากจะได้บุญแล้ว ยังสุขภาพดีอีกด้วย