10 ไอเดีย ตั้งชื่อร้านให้รวย ขายดี เรียกทรัพย์ ปี 2024

ทีมงาน PAKMUDอัพเดทล่าสุด 6 มกราคม 2024

ไอเดีย ตั้งชื่อร้านให้รวย ขายดี ชื่อร้านเรียกทรัพย์

สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ หรือการจะทำร้านขายของ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ หรือออฟไลน์ ชื่อร้านเก๋ๆ หรือชื่อบริษัท นับว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะบ่งบอกความเป็นตัวตนของบริษัท หรือร้านของเรา รวมถึงโลโก้ และการออกแบบอื่นๆที่จะตามมา หลายคนเลือกที่จะตั้งชื่อร้านตามธุรกิจ แต่มีหลายๆคนที่เลือกหลักการ ตั้งชื่อร้านให้รวย ขายดี เรียกทรัพย์ เพราะเชื่อกันว่า ชื่อร้านที่เป็นมงคล ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตนั่นเอง

วันนี้เรามีไอเดียการ ตั้งชื่อร้านเรียกทรัพย์ มาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็นไอเดียการตั้งชื่อร้าน ข้อแนะนำ หรือเทคนิคการนำไปใช้งาน หรือเช็คว่าซ้ำกันคนอื่นหรือไม่ ในกรณีที่ต้องการจดบริษัท มาดูกันเลยค่ะว่า มีไอเดียยังไงกันบ้าง

สารบัญ

10 เทคนิคการตั้งชื่อร้าน ชื่อบริษัท ให้ขายดี เรียกทรัพย์ ร่ำรวย

1.ตั้งชื่อร้านให้สั้น กระชับ และจดจำง่าย

ในการตั้งชื่อร้านให้รวย สิ่งสำคัญอันดับแรกๆ คือเรื่องความประชับ และจดจำง่าย เพราะการสร้างแบรนด์ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน การจดจำชื่อแบรนด์ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในยุคออนไลน์ เรามักจะพบเห็น ชื่อร้าน หรือธุรกิจต่างๆ จากสื่อหลากหลายช่องทาง การใช้ชื่อร้านที่สั้นกระชับจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ยกตัวอย่างแบรนด์ที่มีชื่อจำง่าย เช่น ( dr.pong / vistra / jmart / Netflix / ตี๋น้อย / เต่าบิน ) ชื่อเหล่านี้ ล้วนมีจำนวนพยางค์ที่น้อย และเรียกง่าย อ่านง่าย ดังนั้นควรพิจารณา ตั้งชื่อเริ่มจากจำนวนคำง่ายๆก่อน ยกเว้นในการจดบริษัท อาจใช้ชื่อที่มีความหมายมากขึ้น หรือจำเพื่อเลี่ยงการซ้ำได้

2.เลือกใช้คำที่มีความหมายดี เป็นมงคล มีความหมายไปในเชิงบวก

แน่นอนว่าการตั้งชื่อร้านควรเลือกใช้คำที่สื่อความหมายไปในโชคบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโชคลาภ ความร่ำรวย สื่อถึงคุณค่า หรือความเจริญก้าวหน้า ยกตัวอย่างเช่น ( มั่นคง gadget / สินมั่นคง / เจริญโภคภัณฑ์ / ลัคกี้ สุกี้ / โชคอำนวย ข้าวมันไก่ / Starwell ) เป็นต้น ร้านและบริษัทเหล่านี้ ล้วนเลือกใช้คำที่เป็นมงคล ความหมายดี ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราควรพิจารณา และไม่ใช้คำที่เป็นความหมายไม่ดีลงไปนั่นเองค่ะ

3.ใช้ชื่อร้านที่สะกดง่าย ออกเสียงง่าย เขียนง่าย

การใช้ชื่อที่สะกดง่าย เขียนง่าย หรือออกเสียงง่าย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีตัวแทน มีการขยายตลาด การเขียนชื่อผิด ก็ส่งผลให้ลูกค้าเข้าใจผิดได้ ดังนั้นการใช้ชื่อที่เขียนง่าย เขียนได้ไม่กี่แบบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ยกเว้นว่าคุณจะชอบชื่อนั้นจริงๆ

4.เลือกชื่อร้านที่เหมาะกับประเภทของสินค้า หรือผลิตภัณฑ์

ชื่อร้านที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ จะส่งผลดีต่อการที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้า ชื่อร้านบางร้าน ที่ถูกคิดมาอย่างดี อาจทำให้ลูกค้ารู้ว่าขายอะไรได้เลย ตั้งแต่แรกเห็น เช่น D-tree / Garden buddy เราก็อาจจะมองออกทันทีว่าเป็น ร้านขายต้นไม้ หรือรับจัดสวน หรือ สมชายหมึกย่าง / burger king ก็ชัดเจนว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ดังนั้นการคิดชื่อที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ ก็ส่งผลให้สินค้าขายดี หรือร่ำรวยได้ จึงไม่ควรมองข้ามข้อนี้นั่นเอง

5.ใช้ชื่อร้านที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ หรือแปลกใหม่ น่าสนใจ

การใช้ชื่อร้านที่มีความคิดสร้างสรรค์และครีเอท มักได้รับความสนใจ หรือบางร้านอาจเกิดเป็นไวรัลเลยทีเดียว บางท่านอาจจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับ ธุรกิจที่เคยมีปัญหาเช่น สตาบัง คาเฟ่อมอนเซ ลักษณะนี้ เป็นชื่อที่เกิดจากอารมณ์ขัน และความครีเอท แต่เราควรระวังในการนำมาใช้ และไม่ควรจะใช้ในธุรกิจประเภทเดียวกัน เพราะอาจเกิดความสับสน และทำให้เกิดการฟ้องตามมาได้ ตัวอย่างชื่อร้าน ที่มีความครีเอท น่าสนใจ ( flosist gump ร้านขายดอกไม้ / Bread Pitt ขายขนมปัง / THAI TANIC ร้านอาหารไทย / life of pie ร้านขายพาย / lord of the wings ขายปีกไก่ ) จะเห็นว่าชื่อเหล่านี้ ล้วนมีความคิดสร้างสรรค์ โดยการเล่นคำ และสอดแทรกอารมณ์ขัน ทำให้เป็นที่สนใจได้เป็นอย่างดีนั่นเอง หากสนใจชื่อแนวนี้ สามารถไปค้นหาเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Punniest Shop Names Around The World ได้เลยค่ะ

6.หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อย่อ หรือคำย่อ

จะเห็นว่าบริษัทใหญ่ๆ ชั้นนำของโลก หรือแม้แต่ในไทย หลายบริษัท นิยมใช้ชื่อย่อเป็นจำนวนมาก ชื่อ IBM , BMW , JIB , MK เพราะมีความสั้น กระชับ แต่รู้หรือไม่ กว่าบริษัทเหล่านี้จะสามารถทำให้ชื่อย่อเป็นที่จดจำได้นั้น ต้องใช้เงินมหาศาลในการสร้างแบรนด์ ดังนั้น การที่ร้านเล็กๆ หรือธุจกิจ sme จะใช้ตัวชื่อเป็นชื่อนั้น จึงไม่ค่อยเหมาะ เพราะอาจเกิดการซ้ำได้ง่าย และใช้เวลาในการเป็นที่จดจำ หรือมีความน่าสนใจ

7.ไม่ควรตั้งชื่อซ้ำหรือใกล้เคียงกับแบรนด์ดัง

แน่นอนว่าการใช้ซื่อที่ใกล้เคียงกับแบรนด์ดัง อาจจะดูเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจใหม่ๆ เป็นที่สนใจได้ง่าย แต่ระยะยาวแล้ว มีผลเสียมากมาก ตัวอย่างเช่น กาแฟ สตาบัง ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดี เพราะเกิดการฟ้องร้องตามมา หรือหากวันนึงแบรนด์ของคุณ เกิดมีชื่อเสียงขึ้นมา หากคิดจะเปลี่ยนตอนนั้น ก็อาจจะช้าไปเสียแล้ว ดังนั้น การเริ่มต้นธุรกิจ หากคิดจะพัฒนาให้แบรนด์มีความก้าวหน้าต่อเนื่อง ควรเลือกชื่อที่ไม่ซ้ำ กับธุรกิจในประเภทเดียวกัน จะดีที่สุด

และสำหรับใครที่คิดจะเปิดบริษัท สามารถเช็คชื่อธุรกิจด้วยตนเองก่อนได้ที่ เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจร้านค้า กระทรวงพาณิชย์ www.dbd.go.th กดเลือกจองชื่อ/ตรวจคำขอจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อตรวจสอบการตั้งชื่อบริษัทก่อน

8.ตั้งชื่อร้านตามเทรนด์ มีความแปลกใหม่ น่าสนใจ

สำหรับร้านค้า หรือธุรกิจที่ไม่เน้นความน่าเชื่อถือ หรือเป็นทางการมาก การตั้งชื่อร้านเก๋ๆ ตามเทรนด์ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้ชื่อร้าน จดจำง่าย และมีความไวรัล ให้พิจารณาเลือกคำที่อยู่ในกระแส มาผสมกับชื่อร้าน แล้วออกมาน่าฟัง หรือน่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น ( ร้านขนมปัง “ปังปุริเย่” , ร้านยำ “แซ่บไม่ไหว” , ร้านปลาเค็ม “เต็มคาราเบล”) เป็นต้น ย้ำว่านี่เป็นเพียงตัวอย่าง เท่านั้น ในยุคปัจจุบัน มักมีคำ หรือวลีใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อยๆ แนะนำให้ลองมองหาคำโดนๆ วลีเด็ดๆ มาใช้กับร้านดูนะคะ

9.ไม่ควรใช้ชื่อที่เฉพาะเจาะจง

ในการตั้งชื่อร้านให้รวย ขายดี หากเราคิดว่าอยากจะขายไปนานๆ หรือมีแพลนจะขยายธุรกิจในอนาคต ชื่อร้านไม่ควรจะยึดโยงกับตัวบุคคล สถานที่ หรือมีความเฉพาะเจาะจง ไม่ว่าทางใด หรือด้านใด เช่น หากเราตั้งชื่อคาเฟ่ว่า ร้านนมบางแสน, ร้านกาแฟภูทับเบิก, สมชายคาเฟ่ แล้วนำไปสร้างแบรนด์ พัฒนาเป็นโลโก้ หากวันนึง ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ และร้านอยากมีการขยายธุรกิจหรือขยายสาขา เช่น ร้านนมบางแสน อยากไปอยู่ที่เชียงใหม่ อาจจะเกิดความสับสนได้ หรือหาก สมชายคาเฟ่ มีการเปลี่ยนเจ้าของ ก็อาจจะมีปัญหาได้นั่นเอง แต่หากคิดว่า จะไม่มีแพลนขยายร้าน หรือขยายธุรกิจ ก็ไม่มีปัญหาจ้า

10.ตั้งชื่อร้านตามหลักสายมู

สำหรับเจ้าของร้านที่มีความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องทาง สายมู เช่น ฮวงจุ้ย ดวง ฤกษ์ หรือความเป็นมงคล สามารถใช้หลักทางด้านดวงชะตา หรือความเชื่อ เข้ามามีส่วนในการตั้งชื่อร้านได้ เช่น เลือกตัวอักษรที่เป็นมงคล เลี่ยงอักษรกาลกิณีตามวันเกิด ตั้งตามหลักเลขศาสตร์ โดยสามารถหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับด้านนั้นๆได้โดยตรง หรือ เลือกใช้คำที่มีความหมายมงคล ในภาษาต่างๆ ประกอบในชื่อ โดยวันนี้เรามีตัวอย่างคำที่มีความหมายดี สามารถใช้ประการตั้งชื่อร้านได้ค่ะ มาดูกันเลย

คำมงคล ภาษาอังกฤษ ความหมายดี สำหรับนำมาตั้งชื่อร้าน

Love (แลฟ): ความรักและความห่วงใยที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ
Peace (พีซ): ความสงบและความสันติภาพในใจและโลก
Happiness (แฮปปีเนส): ความสุขและความเป็นเพลิดเพลินในชีวิต
Harmony (ฮาร์โมนี): ความสอดคล้องและความสมดุลในความรักและความสัมพันธ์
Gratitude (กรีทิจูด): ความขอบคุณและความรู้สึกถ่อมตนต่อสิ่งที่มีอยู่
Wisdom (วิซดัม): ความรู้และปัญญาที่มากกว่าความรู้พื้นฐาน
Hope (โฮป): ความหวังและความมุ่งมั่นในอนาคตที่ดีกว่า
Faith (เฟธ): ความเชื่อและความไว้วางใจในสิ่งที่ไม่เห็นได้
Strength (สตริงธ์): ความแข็งแกร่งและพลังในกายและจิตใจ
Gratitude (กรีทิจูด): ความขอบคุณและความรู้สึกถ่อมตนต่อสิ่งที่มีอยู่
Serenity (เซรีนิตี้): ความสงบและความสมานฉันท์ในใจ
Courage (เคอเรจ์): ความกล้าหาญและความสามารถในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย
Unity (ยูนิตี้): ความสัมพันธ์และความสามัคคีร่วมกัน
Harmony (ฮาร์โมนี): ความสอดคล้องและความสมดุลในความรักและความสัมพันธ์
Trust (ทรัสท์): ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในผู้อื่น
Joy (จอย): ความสุขและความรื่นเริงใจในสิ่งที่ทำ
Wealth (เวลธ์): ความมั่งคั่งและความร่ำรวยทางเศรษฐกิจ
Fortune (ฟอร์จูน): โชคชะตาและโชคดีในชีวิต
Prosperity (พรอสเปอริตี้): ความรุ่งเรืองและความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
Abundance (อะบันแดนซ์): ความมั่งคั่งและความเพียรในทรัพยากรต่างๆ
Opulence (ออปิวเลนซ์): ความสง่างามและความหรูหรา
Luck (ลัค): โชคลาภและโอกาสที่ดี
Blessing (เบลสซิ่ง): พระคุณและการให้พรในชีวิต
Success (สัคเซส): ความสำเร็จและความสุขในการบรรลุเป้าหมาย
Serendipity (เซเรนดิพิตี้): โอกาสที่ดีและการพบความสุขโดยบังเอิญ
Opportunity (ออพพอร์ทูนิตี้): โอกาสและช่องทางสำหรับความสำเร็จ
Riches (ริชเซส): ความมั่งคั่งและความร่ำรวย
Affluence (แอฟฟลูเอนซ์): ความมั่งคั่งและความมีทรัพย์สินมาก
Luxury (ลักเชอรี่): ความหรูหราและความสะท้อนความเป็นพิเศษ
Magnificence (แมกนิฟิเซนซ์): ความงดงามและความเห็นใจในสิ่งที่ยิ่งใหญ่
Triumph (ไทรัมฟ์): ความชัยชนะและความสำเร็จ
Golden (โกลเดิน): แสงแห่งความมั่งคั่งและความเป็นทองคำ
Euphoria (ยูโฟเรีย): ความร่าเริงและความสุขอันอมตะ
Graciousness (เกรเชียสเนส): ความเอื้อเฟื้อความร่ำรวยและความมั่งคั่ง

คำมงคล ความหมายดี สำหรับตั้งชื่อร้าน ด้วยชื่อมงคลภาษาไทย

ชื่อร้านมงคลเกี่ยวกับ เงิน ทองคำ เพชร

พัชร์
ทอง
ทรัพย์
กนก / กาญจน์
หิรัณย์
สุวรรณ
สุพรรณ
โสภณ

ชื่อร้านมงคลเกี่ยวกับ โชคลาภ อำนาจ ความยิ่งใหญ่ ชัยชนะ

ชัย
ชนะ
อนันต์
โภค
เกรียงไกร
ลาภ
มหา
มังกร
มงคล
ทิพย์
สถาพร
ถาวร
บารมี
เดชา / เดช
โชคดี

ชื่อร้านมงคลเกี่ยวกับ ความเจริญรุ่งเรือง เพิ่มพูน งอกเงย

ทวี
สมบูรณ์
พิบูลย์
รุ่งเรือง
ไพศาล
เจริญ
พัฒนา
เสริม
มั่งมี
มั่งคั่ง
มั่นคง
เพิ่มพูน
รุ่งโรจน์

คำมงคล ความหมายดี สำหรับตั้งชื่อร้าน ด้วยชื่อมงคลภาษาจีน

富 (fù): ความร่ำรวยและความมั่งคั่ง
財富 (cái fù): ความมั่งคั่งและทรัพย์สิน
興旺 (xīng wàng): ความเจริญรุ่งเรืองและโอ่อ่าง
幸運 (xìng yùn): โชคดีและโชคลาภ
好運 (hǎo yùn): โชคดีและโชคลาภ
吉祥 (jí xiáng): สิ่งที่เป็นของแข็งและสิ่งที่ดี
福氣 (fú qì): พรหมายและความสุข
如意 (rú yì): ความปรารถนาในสิ่งที่ดีและความสำเร็จ
幸福 (xìng fú): ความสุขและความพึงพอใจ
豐盛 (fēng shèng): ความมั่งคั่งและความรุ่งเรือง
繁榮 (fán róng): ความเจริญรุ่งเรืองและความรุ่งเรือง
旺盛 (wàng shèng): ความมั่งคั่งและความเจริญ
幸福美滿 (xìng fú měi mǎn): ความสุขและความพึงพอใจที่สมบูรณ์แบบ
發財 (fā cái): ความร่ำรวยและความมั่งคั่ง
喜悅 (xǐ yuè): ความสุขและความเบิกบานใจ
紅運 (hóng yùn): โชคลาภและโชคดี
幸運星 (xìng yùn xīng): ดาวโชคลาภและโชคดี
財氣 (cái qì): ความมั่งคั่งและโชคลาภ
發達 (fā dá): ความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จ
富有 (fù yǒu): ความมั่งคั่งและความร่ำรวย

สุดท้ายนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพียงไอเดียดีๆ และข้อมูลที่เรานำมาฝากกันนะคะ การตั้งชื่อร้าน ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ของการทำธุรกิจ เพราะหากเรามีชื่อร้านที่ดี ผ่านการคัดกรอง และเลือกมาอย่างดี ย่อมส่งผลให้อย่างอื่นดีตามไปด้วย เช่นการทำตลาด การทำแบรนด์ดิ้ง โลโก้ การโปรโมทร้าน ด้วย แคปชั่นเปิดร้าน ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าโพสนี้คงเป็นประโยชน์ กับเจ้าของธุรกิจ หรือเจ้าของร้านทุกท่าน ไม่มากก็น้อยน๊า

หัวข้อยอดนิยม ที่คนอื่นสนใจ ใกล้เคียงกับเรื่องนี้