ต่างจังหวัด จังหวัดไหนน่าอยู่ที่สุด แยกตามปัจจัยต่างๆ

หลายคนคงมีความฝันว่าถึงวันหนึ่ง เมื่ออายุมากแล้ว อยากจะย้ายออกจากกรุงเทพ ไปอยู่ต่างจังหวัด เพื่อพักผ่อน หรือเพื่อเกษียณ แต่ยังติดสินใจไม่ได้ ว่าจะไปจังหวัดดี โพสนี้เราหาข้อมูลมาให้ค่ะ โดยจะแยกตามปัจจัยและเหตุผลด้านต่างๆ เพื่อให้สะดวกต่อการตัดสินใจ ลองมาดูกันค่ะว่า ต่างจังหวัด จังหวัดไหนน่าอยู่ที่สุด มีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง มาดูกันค่ะ

ปัจจัยด้านสาธารณสุข สุขภาพ หรือโรงพยาบาล

5 อันดับจังหวัดที่มีคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI) ด้านสุขภาพสูงสุด

  • เชียงใหม่
  • ภูเก็ต
  • ระนอง
  • ชลบุรี
  • นครศรีธรรมราช

ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index หรือ HDI) ดัชนีการพัฒนามนุษย์ใช้วัดความสำเร็จโดยเฉลี่ยของแต่ละประเทศในการพัฒนามนุษย์สามด้านหลัก ได้แก่ การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี, ความรู้, และมาตรฐานคุณภาพชีวิต

จังหวัดที่มีโรงพยาบาลศูนย์ระดับ A

โรงพยาบาลศูนย์ (Advance Level Hospital) หรือระดับ A เป็นโรงพยาบาลระดับ ตติยภูมิ รับส่งต่อผู้ป่วยระดับสูง โดยให้มีครอบคลุมทุกเขตสุขภาพ ขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยที่ต้องการ การรักษาที่ยุ่งยากซับซ้อนระดับเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีขั้นสูงและมีราคาแพง

ภาคเหนือ

  • เชียงใหม่: โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
  • เชียงราย: โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงราย
  • ลำปาง: โรงพยาบาลลำปาง
  • พิษณุโลก: โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
  • ตาก: โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
  • สุโขทัย: โรงพยาบาลสุโขทัย
  • เพชรบูรณ์: โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

ภาคอีสาน

  • ขอนแก่น: โรงพยาบาลศรีนครินทร์
  • อุบลราชธานี: โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
  • อุดรธานี: โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
  • นครราชสีมา: โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
  • บุรีรัมย์: โรงพยาบาลบุรีรัมย์
  • มหาสารคาม: โรงพยาบาลมหาราชนครมหาสารคาม
  • กาฬสินธุ์: โรงพยาบาลกาฬสินธุ์
  • เลย: โรงพยาบาลเลย

ภาคกลาง

  • นนทบุรี: โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
  • ปทุมธานี: โรงพยาบาลปทุมธานี
  • สมุทรปราการ: โรงพยาบาลสมุทรปราการ
  • สมุทรสาคร: โรงพยาบาลสมุทรสาคร
  • นครปฐม: โรงพยาบาลนครปฐม
  • ราชบุรี: โรงพยาบาลราชบุรี
  • เพชรบุรี: โรงพยาบาลพระจอมเกล้า
  • กาญจนบุรี: โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
  • สระบุรี: โรงพยาบาลสระบุรี

ภาคตะวันออก

  • ชลบุรี: โรงพยาบาลชลบุรี
  • ระยอง: โรงพยาบาลระยอง
  • จันทบุรี: โรงพยาบาลพระปกเกล้า
  • ฉะเชิงเทรา: โรงพยาบาลพุทธโสธร
  • ตราด: โรงพยาบาลตราด

ภาคใต้

  • นครศรีธรรมราช: โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
  • สงขลา: โรงพยาบาลสงขลา
  • สุราษฎร์ธานี: โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
  • ภูเก็ต: โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
  • กระบี่: โรงพยาบาลกระบี่
  • พังงา: โรงพยาบาลพังงา
  • นครศรีธรรมราช: โรงพยาบาลทุ่งสง
  • ชุมพร: โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

จังหวัดที่มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ครอบคลุมทุกตำบล

  • นครปฐม
  • สมุทรปราการ
  • นครศรีธรรมราช
  • สุพรรณบุรี
  • ชุมพร

ปัจจัยด้านค่าครองชีพ

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปี 2565 พบว่า 20 จังหวัดที่มีค่าครองชีพถูกสุดในไทย ได้แก่

  1. เลย
  2. หนองบัวลำภู
  3. อำนาจเจริญ
  4. มุกดาหาร
  5. ยโสธร
  6. บึงกาฬ
  7. สกลนคร
  8. นครพนม
  9. กาฬสินธุ์
  10. ขอนแก่น
  11. อุบลราชธานี
  12. ศรีสะเกษ
  13. สุรินทร์
  14. บุรีรัมย์
  15. มหาสารคาม
  16. ร้อยเอ็ด
  17. ชัยภูมิ
  18. เพชรบูรณ์
  19. พิษณุโลก
  20. ตาก

อ้างอิงจาก : ราคาอาหาร / ค่าเช่า / ค่าเดินทาง / ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ปัจจัยด้านราคาที่ดิน

หากพิจารณาจากราคาที่ดิน ข้อมูลการประเมินราคาที่ดินจากกรมธนารักษ์ ประจำปี 2567 แยกตามภาค มีราคาต่ำสุดและสูงสุดดังนี้

ราคาประเมินที่ดินภาคกลาง ( ราคาต่ำสุด – สูงสุด บาท/ตร.ว. )

  • นนทบุรี 1,300-170,000
  • สมุทรปราการ 1,000-160,000
  • ปทุมธานี 1,000-100,000
  • สมุทรสาคร 500-70,000
  • นครปฐม 200-80,000
  • สมุทรสงคราม 300-53,000
  • อุทัยธานี 175-50,000
  • พิจิตร 75-37,500
  • อ่างทอง 250-60,000
  • อยุธยา 300-60,000
  • กำแพงเพชร 200-40,000
  • ลพบุรี 100-100,000
  • สุพรรณบุรี 130-70,000
  • นครนายก 400-73,500
  • สระบุรี 150-75,000
  • สิงห์บุรี 250-75,000
  • นครสวรรค์ 200-107,500
  • เพชรบูรณ์ 100-40,000
  • สุโขทัย 100-64,000
  • ชัยนาท 180-45,000
  • พิษณุโลก 50-100,000

ราคาประเมินที่ดินภาคเหนือ ( ราคาต่ำสุด – สูงสุด บาท/ตร.ว. )

  • แพร่ 180-42,500
  • พะเยา 380-58,000
  • ลำพูน 150-100,000
  • น่าน 150-65,000
  • แม่ฮ่องสอน 150-52,000
  • ลำปาง 250-100,000
  • เชียงราย 175-85,000
  • อุตรดิตถ์ 90-60,000
  • เชียงใหม่ 100-250,000
  • ตาก 230-62,500

ราคาประเมินที่ดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( ราคาต่ำสุด – สูงสุด บาท/ตร.ว. )

  • บึงกาฬ 200-17,500
  • อุดรธานี 250-180,000
  • มหาสารคาม 250-60,000
  • หนองคาย 200-45,000
  • อุบลราชธานี 50-110,000
  • ร้อยเอ็ด 100-80,000
  • เลย 150-55,000
  • หนองบัวลำภู 200-35,000
  • กาฬสินธุ์ 250-33,500
  • สุรินทร์ 130-60,000
  • สกลนคร 230-75,000
  • บุรีรัมย์ 150-50,000
  • อำนาจเจริญ 230-20,000
  • นครพนม 200-50,000
  • ศรีสะเกษ 130-40,000
  • นครราชสีมา 100-130,000
  • ยโสธร 200-44,000
  • มุกดาหาร 210-35,000
  • ขอนแก่น 110-200,000
  • ชัยภูมิ 75-53,500

ราคาประเมินที่ดินภาคตะวันออก ( ราคาต่ำสุด – สูงสุด บาท/ตร.ว. )

  • ฉะเชิงเทรา 400-50,000
  • ระยอง 200-125,000
  • ปราจีนบุรี 200-45,000
  • สระแก้ว 200-25,000
  • ตราด 150-71,000
  • จันทบุรี 130-90,000
  • ชลบุรี 400-220,000

ราคาประเมินที่ดินภาคตะวันตก ( ราคาต่ำสุด – สูงสุด บาท/ตร.ว. )

  • กาญจนบุรี 150-60,000
  • เพชรบุรี 150-100,000
  • ประจวบคีรีขันธ์ 300-150,000
  • ราชบุรี 200-100,000

ราคาประเมินที่ดินภาคใต้ ( ราคาต่ำสุด – สูงสุด บาท/ตร.ว. )

  • ภูเก็ต 3,200-200,000
  • นราธิวาส 150-85,000
  • พังงา 250-50,000
  • พัทลุง 200-150,000
  • ยะลา 130-170,000
  • ปัตตานี 180-51,000
  • ระนอง 150-81,000
  • ชุมพร 130-87,500
  • สตูล 130-96,000
  • กระบี่ 250-72,500
  • สุราษฎร์ธานี 200-150,000
  • สงขลา 200-400,000
  • ตรัง 200-150,000
  • นครศรีธรรมราช 100-200,000

ปัจจัยด้านแหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

สำหรับใครผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ เช่นน้ำตก ภูเขา ป่าไม้ ทะเล เกาะ หรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่ นี่คือจังหวัดที่น่าสนใจ พร้อมตัวอย่างสถานที่ที่น่าสนใจค่ะ

1. เชียงใหม่: ดอยอินทนนท์, ดอยสุเทพ, น้ำตกแม่สา, ถ้ำหลวงเชียงดาว, อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

2. แม่ฮ่องสอน: ดอยอ่างขาง, ถ้ำน้ำลอด, ทะเลหมอกจ่าโบ่, ปางอุ๋ง

3. กระบี่: เกาะพีพี, เกาะไหง, เกาะลันตา, อ่าวท่าเลน

4. ภูเก็ต: หาดป่าตอง, หาดกะรน, หาดกมลา, แหลมพรหมเทพ

5. สุราษฎร์ธานี: เกาะสมุย, เกาะพะงัน, เกาะเต่า, เขื่อนรัชชประภา

6. พังงา: อ่าวพังงา, เกาะพีพี, เกาะห้อง, เกาะตะปู

7. ระนอง: เกาะพยาม, หมู่เกาะสุรินทร์, น้ำตกหงาว, น้ำพุร้อนรักษะวาริน

8. ชุมพร: เกาะเต่า, เกาะพะงัน, หมู่เกาะทะเลแก้ว, น้ำตกพะโต๊ะ

9. ตราด: เกาะช้าง, เกาะกูด, เกาะหมาก, น้ำตกคลองพลู

10. กาญจนบุรี: น้ำตกเอราวัณ, เขื่อนศรีนครินทร์, ถ้ำน้ำตก, สะพานข้ามแม่น้ำแคว

11. เพชรบุรี: ชะอำ, หัวหิน, เกาะทะลุ, แก่งกระจาน

12. ประจวบคีรีขันธ์: หัวหิน, อ่าวมะนาว, เกาะหลัก, น้ำตกปราณบุรี

13. ชลบุรี: พัทยา, สัตหีบ, เกาะสีชัง, เขาสามมุก

14. นครศรีธรรมราช: เขื่อนรัชชประภา, น้ำตกกรุงชิง, เกาะสมุย, เกาะพะงัน

15. พัทลุง: ทะเลน้อย, เขื่อนรัชชประภา, อุทยานแห่งชาติเขาหลวง

16. ตรัง: เกาะมุก, เกาะเหลาลาดิง, ถ้ำมรกต, น้ำตกโตนปลิว

17. นครนายก: น้ำตกสาริกา, เขื่อนขุนด่านปราการชล, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

18. สระบุรี: เขื่อนหนองปลาหลง, น้ำตกโกรกอีดก, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

19. เลย: ภูเรือ, ภูหลวง, น้ำตกตาดเหว, เชียงคาน

20. อุบลราชธานี: น้ำตกแสงจันทร์, สามพันโบก, ภูผาม่าน

21. ขอนแก่น: เขื่อนอุบลรัตน์, สวนสัตว์ขอนแก่น, อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน

22. บุรีรัมย์: ปราสาทหินพนมรุ้ง, วนลอร์ดรักไทย, เขื่อนอุบลรัตน์

23. นครราชสีมา: เขาใหญ่, ปาลิโอ, น้ำตกเหวสุวัต

24. มุกดาหาร: วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว, สามพันโบก, แก่งกะเลาะ

25. กาฬสินธุ์: ภูพาน, สวนสาธารณะเขื่อนลำปาว, วัดพระธาตุหนองแวง

26. อำนาจเจริญ: ภูสวนทราย, แก่งหินงาม, น้ำตกพลาญทอง

27. ลำปาง: ถ้ำผาไท, อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน, เขื่อนกิ่วคอหมา

28. พะเยา: ภูซาง, กว๊านพะเยา, วัดอนาลโยทิพยาราม

29. น่าน: ดอยภูคา, ถ้ำลอด, วัดภูมินทร์

30. แพร่: ดอยผาตั้ง, วัดพระธาตุจอมทอง, แพะเมือง

แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง

หากพิจาณาจากแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับการ กิน ช็อป หรือควรไปเยือน ไปพักผ่อน มีจังหวัดที่น่าสนใจดังนี้ ไปดูกันค่ะ !

1. เชียงใหม่: ถนนคนเดินท่าแพ, ประตูท่าแพ, กาดหลวง, ถนนนิมมานเหมินทร์, ตลาดช้างเผือก, ถนนคนเดินวัวลาย, ตลาดต้นลำไย, สวนสัตว์เชียงใหม่, เมืองเก่าเชียงใหม่

2. ภูเก็ต: ถนนคนเดินบางลา, เมืองเก่าภูเก็ต, ตลาดสดชิวฟ้า, ถนนดีบุก, ตลาดน้ำรัษฎา, ภูเก็ตแฟนตาซี, ไซมอนคาบาเร่ต์

3. พัทยา: ถนนเลียบชายหาดพัทยา, ตลาดน้ำสี่ภาค, ทิฟฟานี่โชว์, ปราสาทสัจธรรม, ถนนคนเดินกลางคืน, ตลาดน้ำพัทยา, เมืองจำลอง, สวนนงนุช, ตลาดเก้ากิโล, ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา

4. ชลบุรี: ตลาดน้ำอโยธยา, เมืองจำลอง, สวนนงนุช, ฟาร์มแกะ Swiss Sheep Farm, ตลาดน้ำบางแสน, เขาสามมุก, ศาลเจ้าพ่อเขาสามมุก, ตลาดหนองมน, ตลาดน้ำพัทยา

5. เชียงราย: ถนนคนเดินเชียงราย, หอนาฬิกาเชียงราย, ถนนคนเดินวัวลาย, ไร่บุญรอด, ไร่ชาฉุยฟง, ฟาร์มแกะเมืองฟ้าขาว, สวนแม่ฟ้าหลวง, วัดร่องขุ่น, ถนนคนเดินกาดหลวง

6. นครราชสีมา: ตลาดน้ำเขาใหญ่, ฟาร์มโชคชัย, ถนนคนเดินเซราะกราว, ตลาดน้ำจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม, สวนสัตว์นครราชสีมา, โคราช คันทรี่ คลับ, ปราสาทหินพนมรุ้ง, ตลาดน้ำเขาใหญ่

7. อุดรธานี: ตลาดย้อนยุคทุ่งศรีเมือง, สวนสาธารณะหนองประชาค, ศาลเจ้าปู่-ย่า, ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี, แลนด์มาร์คจุดชมวิวหนองประชาค, ตลาดบ้านนาคำ, ตลาดเมืองทอง, สวนโมกข์กรุงเทพ, ตลาดย้อนยุค

8. นครศรีธรรมราช: ถนนคนเดินนครศรีธรรมราช, ท้องฟ้าจำลองนครศรีธรรมราช, สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์, น้ำตกกรุงชิง, เมืองเก่านครศรีธรรมราช, ตลาดกิมหยง, ตลาดท่าศาลา, ถนนคนเดินนครใน

9. ขอนแก่น: ตลาดต้นตาล, เซ็นทรัลเฟสติวัล ขอนแก่น, สวนสัตว์ขอนแก่น, ตลาดท่าเสด็จ, ศูนย์วัฒนธรรมอีสาน ขอนแก่น, ตลาดต้นตาล, ตลาดแอร์พอร์ตพลาซ่า, ตลาดเมืองทอง, สวนรัชดานุสรณ์

10. บุรีรัมย์: ช้างอารีน่า, สวนนก Buriram Bird Park, พิพิธภัณฑ์ช้างดำ, เมืองโบราณอู่ทอง, ปราสาทหินพนมรุ้ง, ตลาดไนซ์บาซาร์, ตลาดโต้รุ่ง, ตลาดน้ำเขากระโดง

ปัจจัยด้านความเจริญ

จังหวัดที่มีความเจริญมากที่สุด ไม่รวมกรุงเทพ พิจารณาจากข้อมูลด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ และ โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , สำนักงานสถิติแห่งชาติ

  1. เชียงใหม่
  2. ภูเก็ต
  3. เชียงราย
  4. ขอนแก่น
  5. อุดรธานี
  6. ชลบุรี
  7. นครราชสีมา
  8. ระยอง
  9. นครปฐม
  10. สมุทรปราการ
  11. เพชรบุรี
  12. สุราษฎร์ธานี
  13. นครศรีธรรมราช
  14. พิษณุโลก
  15. สงขลา

ปัจจัยด้านผลสำรวจดัชนีความสุข

ข้อมูลจากผลสำรวจ ของ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในปี 2566 โดยพิจารณาจากข้อมูลด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ สิ่งแวดล้อม การเข้าถึงบริการต่างๆ 20 จังหวัดที่คนมีความสุขที่สุด ไม่รวมกรุงเทพ มีดังนี้

  1. แม่ฮ่องสอน
  2. พังงา
  3. ชัยภูมิ
  4. ปราจีนบุรี
  5. อุทัยธานี
  6. สุโขทัย
  7. จันทบุรี
  8. พะเยา
  9. แพร่
  10. น่าน
  11. หนองคาย
  12. ลำปาง
  13. เลย
  14. เพชรบุรี
  15. ตาก
  16. กาญจนบุรี
  17. ระนอง
  18. ชุมพร
  19. สุราษฎร์ธานี
  20. สิงห์บุรี

ปัจจัยด้านสภาพอากาศ

จังหวัดที่มลพิษทางอากาศน้อย

ในประเทศไทยมีจังหวัดหลายแห่งที่มีคุณภาพอากาศดีและเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย โดยไม่มีมลพิษทางอากาศ ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ นี้คือ 5 จังหวัด ที่มีค่า PM2.5 ต่ำที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่มกราคมถึงธันวาคม 2563:

  1. สตูล: มีค่า PM2.5 ต่ำที่สุดในประเทศ อยู่ที่ 11-16 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
  2. ยะลา: มีค่า PM2.5 ต่ำที่สุด อยู่ที่ 11-16 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
  3. ภูเก็ต: มีค่า PM2.5 ต่ำที่สุด อยู่ที่ 11-16 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
  4. สุราษฎร์ธานี: มีค่า PM2.5 ต่ำที่สุด อยู่ที่ 11-16 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
  5. สงขลา: มีค่า PM2.5 ต่ำที่สุด อยู่ที่ 11-16 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

จังหวัดที่อากาศดี เย็นสบาย

  • เชียงใหม่: อากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 25 องศา
  • แม่ฮ่องสอน: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 23 องศา
  • เชียงราย: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 24 องศา
  • น่าน: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 23 องศา
  • เพชรบุรี: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศา
  • ระนอง: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศา
  • ชุมพร: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศา
  • สุราษฎร์ธานี: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศา
  • นครศรีธรรมราช: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศา
  • สงขลา: อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศา

เหตุผลที่จังหวัดเหล่านี้มีคุณภาพอากาศดี อาจเกิดจากสภาพภูมิอากาศ และการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีในพื้นที่ ซึ่งทำให้เป็นที่น่าอยู่อาศัย และเหมาะสำหรับการพักอาศัยของประชาชน หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในประเทศไทยที่มีคุณภาพอากาศดี ควรพิจารณาเยี่ยมชมจังหวัดเหล่านี้ค่ะ 🌿🌞

สรุป : ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลในหลายๆด้าน เพื่อให้เห็นข้อดีของแต่ละจังหวัด โดยจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้ว จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นจังหวัดที่มีปัจจัยที่ดี ในหลายๆด้าน เหมาะสำหรับการย้ายจากการย้ายจากกรุงเทพไปอยู่มากที่สุด อาจจะต้องฝึกเขียนแคปชั่นภาษาเหนือ อู้กำเมือง รอกันแล้วว แต่หากใครสนใจจังหวัดอื่นๆ ก็ลองพิจารณาจากข้อมูลในโพสนี้ได้เลยนะคะ หวังว่าจะมีความสุขกับการย้ายจังหวัดจ้า

ดูเพิ่มเติม

ทีมงาน PAKMUD

Pakmud.com เว็บไซต์ที่รวบรวมทุกเรื่องราวที่คนไทยให้ความสนใจ ข้อคิด คำคม แคปชั่น จัดอันดับซีรี่ แนะนำหนังน่าดู รีวิวของน่าใช้ แชร์ รูปภาพ ไอเดียแต่งบ้าน สูตรอาหาร แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว คาเฟ่ แชร์ข่าวสาร สาระ ความรู้ ต่างๆ อัพเดทเทรนด์ฮอตฮิตทั่วโลก ให้คุณไม่พลาดทุกเรื่องราวมาแรง
Back to top button