หลายท่านคงเคยสงสัยว่า เราควรกินอะไร จึงจะทำให้ป้องกันมะเร็งได้ หรือห่างไกลจากโรคมะเร็ง เราจะได้เลือกทานตั้งแต่เนิ่นๆ วันนี้เราจะพาทุกคนมาดู 10 อาหารมะเร็งเกลียด ยิ่งทาน ยิ่งป้องกันมะเร็ง มีอาหารชนิดไหนกันบ้างนั่น เตรียมจดเลย

10 อาหารมะเร็งเกลียด

1. ถั่ว

            ถั่วเป็นอาหารชั้นดีในการต้านมะเร็ง เนื่องจากมีกากใยอาหารตามธรรมชาติ รวมถึงมีโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเราสามารถเลือกชนิดถั่วสำหรับการทานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วลิสง หรือถั่วแดง เป็นต้น ซึ่งการรับประทานถั่วจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้และโรคมะเร็งในทางเดินอาหาร

2.ชาเขียว

การทานชาเขียวจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเซลล์มะเร็ง เนื่องจากในชาเขียวมีสาร Epigallocatechin Gallate [EGCG] จะทำให้เซลล์การเกิดมะเร็งลดลง ในการดื่มชาเขียวแนะนำว่าให้ดื่มทันทีหลังจากที่ชงเสร็จ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้คุณค่าทางสารอาหารที่ได้รับลดลง ซึ่งชาเขียวมีหลากหลายแบบ จะทานแบบเปล่า ๆ ก็ได้คุณประโยชน์แบบครบถ้วนหรือทานคู่กับนมสด ก็จะเพิ่มความอร่อยและทานง่ายได้อีกด้วย แคปชั่นชาเขียว

3.เห็ดชิตาเกะ หรือ เห็ดหอม

เป็นอาหารชั้นเลิศ ที่อุดมไปพร้อมด้วยวิตามินบีรวม วิตามินดี รวมถึง Pantothenic และ Lentinan ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัส และต้านเซลล์มะเร็งเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันระบบร่างกายของเราได้อีกด้วย ซึ่งเห็ดชิตาเกะมีประโยชน์สำคัญในยับยั้งการเกิดมะเร็งสำไล้และมะเร็งกระเพาะอาหาร

4.ผักโขม

อีกหนึ่งอาหารมะเร็งเกลียด ที่เรียกได้ว่ามีสรรพคุณทางสารอาหารที่เยอะและมีส่วนช่วยให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์มากมาย ซึ่งในผักโขมมี เบต้า-แคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์สำคัญในการต้านเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีการวิจัยพบว่าผักโขมมีสามารถมีช่วยช่วยในการต้านป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็ง ปอดรวมถึงมะเร็งเต้านม

5. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางสารอาหารต่อร่างกาย เนื่องจากในโยเกิร์ต มีจุลินทรีย์ที่สำคัญมีประโยชน์โดยตรงต่อระบบลำไส้ ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในร่างกาย นอกจากนี้โยเกิร์ตยังช่วยตรวจจับสารโลหะหนัก รวมถึงสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นพิษอันตรายต่อร่างกายได้ แต่ข้อควรระวังคือเนื่องจากโยเกิร์ตมีน้ำตาลในปริมาณที่สูง แนะนำให้เลือกทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือกรีกโยเกิร์ต เป็นทางเลือกในการทานที่ดีต่อสุขภาพ

6.สาหร่ายพวงองุ่น

สาหร่ายพวงองุ่น มีโยชน์ต่อร่างกายอย่างหลากหลาย เนื่องจากมีการวิจัยพบว่าในสาหร่ายองุ่น มีสาร Fucoidan ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านเซลล์มะเร็งทั้งมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร  มะเร็งเม็ดเลือดขาว รวมถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง นอกจากนี้สาหร่ายพวงองุ่นยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระบบของร่างกายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง แต่เนื่องจากในสาหร่ายค่อนข้างมีความเค็ม แนะนำไม่ให้ทานในปริมาณที่มากจนเกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของระบบไตในร่างกายได้

7.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็น บลูเบอร์รี่,ราสเบอร์รี่,แบล็คเคอร์แรนท์,องุ่น,สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น รวมถึงเบอร์รี่ 9 ชนิด เนื่องจากมีสารแอนโทไซยานิน ใยอาหาร วิตามินซีสูง ที่สำคัญในการช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมสำหรับผู้หญิงได้  สามารถปรุงเป็นของหวานหรือรับประทานสดก็ได้รับสารอาหารไม่แพ้กัน ซึ่งมะเร็งเต้านมสามารถรักษาให้หายได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเราส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน

8.แซลมอน

ปลาที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลาย ซึ่งเป็นอาหารที่มีไขมันดีชั้นเลิศ ในการวิจัยพบว่าในปลาแซลมอน มีสาร Seleniumและกรดไขมัน โอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกระดูก รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย นอกจากนี้ในปลาแซลมอนส่งเสริมด้านความจำ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก สามารถรับประทานได้

9.กระเทียม

อาหารที่มะเร็งเกลียด ชนิดนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้กับกระเทียม เป็นเครื่องเทศที่มีสรรพคุณทางยา ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหลากหลายประการ และยังมีการวิจัยพบว่า กระเทียมมีสารที่ออกฤทธิ์ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอก แนะนำให้ทานกระเทียมสดวันละ 6-11 กลีบเล็ก ๆ แต่ไม่แนะนำให้ทานเยอะจนเกินไป จะส่งผลต่อระบบเลือดในอนาคตได้ ทานในปริมาณที่เหมาะสมที่แพทย์แนะนำในแต่ละวัน

10.เมล็ดธัญพืช

และสุดท้ายสำหรับอาหารมะเร็งเกลียด ที่แนะนำอยากให้ทุกคนทานคือ อาหารจำพวกธัญพืชต่าง  ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วร่างกายของเราจะเปลี่ยนเป็นกรดบิวไทริกในลำไส้ ส่งผลในการต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี

            มะเร็ง ภัยร้ายและโรคใกล้ตัวที่อันตราย ที่สามารถพบได้ในทุกช่วงวัย และยังไม่มีการวิจัยใดที่มียารองรับการรักษามะเร็งได้ 100% แต่เชื่อว่าหากเราปรับการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้ร่างกายของเราแข็งแรงได้และต้านเซลล์มะเร็งได้ สำหรับใครที่อยากต้านโรคมะเร็ง แนะนำเลยว่า 10 อาหารมะเร็งเกลียด ที่เราได้คัดเลือกมาให้ทุกคนนั้น มีประโยชน์และช่วยรักษาสุขภาพได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

The post 10 อาหารมะเร็งเกลียด ยิ่งทาน ยิ่งห่างไกลจากโรคมะเร็ง appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

ปูขนมปัง คืออะไร

ปูขนมปัง แท้จริงแล้วไม่ใช่ ปูที่ทำมาจากขนมปัง แต่เป็นปูที่มีไข่อัดแน่น แข็ง และมีปริมาณไขมันสะสมอยู่มาก ลักษณะคล้ายขนมปังก้อน เมื่อแกะปูออกมาจะพบไข่จำนวนมาก สีสวยน่าทาน โดยปูขนมปัง ที่เป็นกระแสในไทย ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากนอร์เวย์ ปูขนมปังเป็นสัตว์ทะเล พบอาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่นทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ทางยุโรป โดยเฉพาะในแหล่งน้ำที่มีน้ำตื้นและอุดมไปด้วยแพลงก์ตอน ซึ่งเป็นอาหารของปูขนมปัง

ปูขนมปัง อร่อยไหม

จากเท่าที่ได้รับคอมเม้นจากชาวเน็ต ในเรื่องของ รสชาติของปูขนมปัง ความคิดเห็นส่วนใหญ่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า มีรสจืด หรือไม่ค่อยมีรสชาติ สู้ปูบ้านเราไม่ได้ แต่บางคนก็บอกว่าเทียบกับปริมาณเนื้อ ไข่ และความมันแล้ว อร่อยถูกปาก ขอแค่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดเด็ดๆ ก็ทำให้อร่อยขึ้นมากๆแล้วค่ะ หรือบางคนเอาไปทำอาหารอย่างอื่น ก็ฟินไม่แพ้กัน

ปูขนมปัง เอามาทำอะไรกินดี

นิยมรับประทานดิบหรือปรุงสุกโดยการนึ่งหรือทอด ไม่ต่างจากปูทั่วๆไป แต่ลักษณะเด่นคือ สามารถทุบเปลือกแล้วแกะออกง่าย ทำให้สะดวกต่อการรับประทาน

ปูขนมปัง ราคาเท่าไร

ปูขนมปังที่พบเห็นในบ้านเราตอนนี้ มีอยู่หลายราคา ทั้งหลายร้อย ถึงหลักพัน แต่ส่วนใหญ่ที่มักจะพบได้บ่อยคือในราคาตัวละ 1000.- บาท โดยประมาณ โดยเป็นปูนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ที่ถูกแช่แข็งส่งเข้ามา แต่ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับผู้จำหน่ายแต่ละเจ้าด้วยค่ะ

ก็ต้องบอกเลยว่าปูขนมปัง เป็นเมนูที่น่าสนใจ และเป็นกระแสมาแรง สำหรับคนที่ชอบทานซีฟู๊ดแล้วนั้น อาจจะต้องลองหามาลองดูกันซักหน่อยแล้วหล่ะค่ะ ว่ารสชาติจะถูกปาก หรือว่าจะจืดอย่างที่เค้าว่ากันหรือไม่ แต่ต้องบอกเลยว่า ด้วยรูปร่างน่าตาดูน่าทาน อาจจะทำให้ใครหลายคน อยากลองชิมเจ้าปูชนิดนี้กันอยู่เยอะเลย !!

The post ปูขนมปัง จากนอร์เวย์ คืออะไร อร่อยไหม มาดูกัน !! appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

งานนี้บอกเลยว่า คนคิดสโลแกนร้านอาหาร หรือของกินนี่ช่างครีเอทเหลือเกิน แอดมินยังอ่านไปขำไป วันนี้รวบรวมมาให้ฮากันเยอะมากๆ เอาไปโพสลงเพจร้านขายอาหารออนไลน์ รับรองยอดแชร์กระจายแน่นอน มาดูกันเลยจ้า

สโลแกนร้านอาหาร ฮาๆ

• คำแรกประทับใจ คำต่อไปประทับส้วม
• ร้านนี้เคี้ยวไม่ยาก ส่วนมากก็ติดคอ
• ผงชูรสไม่มี รสดีครึ่งกิโล
• นั่งทานที่นี่ ฟื้นอีกทีอยู่ที่โรงบาล
• ให้ก็น้อย คอยก็นาน
• เปิดน้อย ปิดบ่อย ไม่อร่อย แต่อยากขาย
• ร้านนี้ขายขำ ไม่เน้นขายของ
• กรอบคำเดียว นอกนั้นเหนียวหมด
• อาหารที่ว่าเผ็ด ยังไม่เด็ด เท่าคนขาย
• ความสะอาดเต็มร้อย ความอร่อยติด0
• คนทำ นั่งยิ้ม คนชิม นั่งช็อก
• กลิ่นที่ บูด คือ สูตรของร้าน
• กรอบเหงือกสั่น สนั่นถึงแกนสมอง
• กินไป1คำ​ ส้วมตันใน1คืน
• อาหารมีคุณภาพ นอนพะงาบๆเมื่อได้ชิม
• รสระยำ ทำจากตีน
• กินหนึ่งคำ สวดอภิธรรม 7 คืน
• อร่อยจริง สูตรลับจากพระบิดา
• พอกินได้แต่อย่ากินบ่อย บางวันไม่อร่อย ให้น้อย แถมแพง
• คำแรกอร่อยถูกใจ คำต่อไปแอดมิททันที
• รสชาติถูกใจ กับ อนามัยที่ถูกลืม
• สั่งวันนี้ แดกชาติหน้า
• สถุนโภชนา ขนาดหมา ยังไม่กิน
• จุดแข็ง ที่รสชาติ จุดอ่อนมีพยาธิตัว…..จี๊ด
• ร้านนี้สูตรโบราณ พึ่งคิดสูตรได้เมื่อวาน บอกโบราณไว้ก่อน
• กลืนตาย คายรอด
• ตามสั่งโบราณ คิดสูตรเมื่อวานบอกโบราณเผื่อขายดี
• มีทุกอย่างยกเว้นที่มึงสั่ง
• กรอบ คำเดียว นอกนั้น เหนียวหมด
• บริการดุจญาติมิตร ประกันชีวิตไม่รับเคลม
• แกงใส่ปรอท กินแล้วตายสงบ แต่ศพมีออร่า
• ร้านตามสั่งอร่อยโดนใจ ร้านถัดไป ไม่ใช่ร้านนี้
• คนขายนั่งขำ คนกินนั่งชัก
• อร่อยจริง ทิ้งพินัยกรรม
• กินวันนี้ ฟื้นอีกทีปีหน้า 
• เค็มให้ร้อย อร่อยน้อยให้ล้าน จานชามไม่เคยล้าง ใช้หมาข้างร้านเลียเอา 
• ผงชูรสไม่มี รสดีครึ่งโล
• บริการดุจญาติมิตร ทุกชีวิตแล้วแต่ดวง
• ร้านนี้มีทุกอย่างยกเว้นความอร่อย
• ร้านข้าวน้องนอย ให้น้อยจนน่าตกใจ
• อร่อยเต็มที่ ขี้เต็มกางเกง
• กินบนเรือน ขี้พุ่งขึ้นหลังคา
• อร่อยที่ปาก ลำบากที่ตูด
• กินที่นี่แว๊ะขี้ทุกปั๊ม
• สั่งเสีย ก่อน สั่งซื้อ
• กินให้รู้รสชาต เพราะมื้อหน้าอัมพาตจะอดกิน
• อร่อยไม่ซ้ำ จำสูตรไม่ได้
• สดทุกอย่าง แม่ครัวก็สด (จะลองไหมล่ะ)
• อร่อยทุกจาน​ เนื้อหลังอานทุกตัว
• กินเเล้วตาย คายดีกว่า
• อร่อยทุกหยด สกปรกทุกคำ
• เส้นเหนียวนุ่ม ห่อหุ้มด้วยไข่พยาธิ
• แดกสบายปาก ลำบากสัปเหร่อ
• แค่คุณรับประทาน ยมบาลก็กวักมือ
• ขำแรกประทับใจคำต่อไปประทับหลุม
• แดกแล้วตายคายแล้วรอด
• รสระยำ ทำจากตีน กินร้านนี้ฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล
• ทานวันนี้สวดฟรีอภิธรรม
• อร่วยสวดๆ แต่ปวดฟัน
• อร่อยเต็มเปี่ยม โซเดียมเต็มคำ แถมฟรีวิคผม!!
• อาหารตามสั่ง มึงสั่งกูทำ หิวก็แดกข้าว ถ้าห้าวแดกตีน
• โปรดสั่งเสีย ก่อนสั่งทาน
• อร่อยเต็มเปี่ยม โซเดียมเต็มคำ
• กิน2ที อเวจีถามหา
• คำแรกขึ้นสมอง คำสองขึ้นสวรรค์ 555
• มาแดรกโภชนา ตายห่าโลกจดจำ
• ป้าร้านนั้นให้แค่น้ำซุป แต่รักนะจุ๊บๆ ต้องมาเอาที่บ้านเรา
• รสชาติเพลินจิต แอดมิดโรงบาล
• อร่อยให้6 สกปรกให้10 กินไม่อ้วน เพราะบ้วนทิ้ง
• กินทันที ขี้ทันควัน
• อร่อยเกินคาด พยาธิเกินร้อย
• กินแล้วไม่ขี้ ย่ำหน้าพี่ได้เลย
• เปิดแล้ววันนี้ พรุ้งนี้ปิดถาวร #รีบๆมากินกันน่ะ
• คำแรกติดใจคำตอบไปติดเตียง
• ขี้ไม่แตก แจกไอโฟน
• มีแต่ลูกค้าใหม่ๆ…ลูกค้าเก่าแดกแล้วตาย
• กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเพราะอ้วกออกหมด
• อร่อยล้ำ ไม่ซ้ำโรค
• กินคำเดียวเที่ยวนรก
• ถ้าหมาไม่แดก กูแจกฟรี
• กิน=ตาย​ คาย=มรณะ
• กินวันนี้แถมฟรีเชื้อโรค
• ใครบอกอร่อย เดี๋ยวนัดต่อยหลังร้าน
• คำแรกติดใจคำต่อไปติดเชื้อ
• อร่อยปาก ลำบากไต
• อร่อย สะอาด คุณภาพ เชิญร้านอื่น
• คนกินนอนตาย คนขายนอนยิ้ม

เป็นยังไงกันบ้างคะ ใครคิดจะเปิดร้านอาหาร แล้วมองหา แคปชั่นร้านอาหาร ฮาๆ แอดมินว่าไม่ควรพลาดน๊าาา 555 แต่ถ้าใครคิดจะเปิดจริงจัง แนะนำว่าหนีไป !! งานนี้ ลูกค้าอาจจะขำจนติดคอก็ได้ แต่ต้องบอกเลยว่า ถ้าเอาไว้โพสเล่นๆ โปรโมทลงเพจ น่าจะดีมากๆ เพราะนอกจากยอดไลค์จะเยอะแล้ว ก็ยังเพิ่มความเฟรนลี่ ทำให้ลูกค้าอารมณ์ดี ถูกใจร้านเรา แล้วอาจจะอยากมากิน หรือสั่งอาหารของร้านเราก็ได้น๊า เอาไปลองใช้กันดูจ้า

สำหรับเว็บไซต์อื่น หากนำเนื้อหาไปเผยแพร่ต่อ หรือเอาไปลงเว็บอื่น กรุณาให้เครดิตด้วยนะคะ โดยลิงค์ กลับมาที่ https://pakmud.com/funny-food-captions

หัวข้ออื่นๆที่เราอยากแนะนำ ใกล้เคียงกับโพสนี้

• สเตตัสกวนๆสั้นๆ ใหม่ๆ มาแรงเดือนนี้ 2024 ไลค์เยอะมาก!!
• 300+ แคปชั่นกวนๆ ฮาๆ คลายเครียด มาใหม่ ไม่ซ้ำ 2024 เยอะที่สุด!!
• 300+ แคปชั่นเปิดร้าน ปังๆ เปิดร้านรับออเดอร์ตอนเช้า สำหรับแม่ค้าออนไลน์
• 130+ แคปชั่นขายของปังๆ สำหรับแม่ค้าออนไลน์ 2024 ใหม่ล่าสุด
• 300+ คําคมแม่ค้าออนไลน์ โพสยังไงให้ปัง ลูกค้าเยอะ ไลค์กระจาย!!

The post สโลแกนร้านอาหาร ฮาๆ กวนๆ เรียกไลค์ เรียกรอยยิ้มให้ลูกค้า appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

การกินเจเป็นวิธีทำบุญที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เราลองพยายามงดเว้นเนื้อสัตว์และอาหารที่มาจากสัตว์ เป็นเวลาแค่ 10 วัน ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการลดการเบียดเบียนสัตว์ และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของเราอีกด้วย

กินเจคืออะไร

กินเจ คือการงดรับประทานอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์, ไข่, นม หรือผักที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ ถือศีลกินเจเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณของชาวไทยเชื้อสายจีน โดยมีความเชื่อว่าเป็นการรักษาสุขภาพที่ดี พร้อมทั้งชำระจิตใจให้บริสุทธิ์

ประโยชน์ของการกินเจ : การกินเจเป็นแนวทางการรับประทานอาหารที่งดเว้นเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาหารเจมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นอกจากนี้ การกินเจยังช่วยลดการเบียดเบียนสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ประวัติของการกินเจ

ประวัติการกินเจนั้นมีหลายตำนานเล่าขานกัน แต่ที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุดคือ ตำนานเกี่ยวกับกลุ่มทหารชาวบ้านที่ชื่อว่า “หงี่หั่วท้วง” ซึ่งต่อต้านการปกครองของกองทัพแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิง ทหารเหล่านี้จะถือศีลกินเจ งดเว้นเนื้อสัตว์และผักที่มีกลิ่นฉุน นุ่งขาวห่มขาวประกอบพิธีกรรม เชื่อว่าจะช่วยเสริมกำลังใจและป้องกันปืนไฟของกองทัพแมนจูได้

การกินเจ (Vegetarian Festival) เป็นเทศกาลทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีกำเนิดในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเก็ตและพุทธศาสนาที่ตานิมุย (Mahayana Buddhism) ที่มีการเลียนแบบการกินเจของจีน (Chinese Vegetarian Festival) โดยมีลักษณะที่คนที่รู้เรื่องเรียกว่า “เทศกาลเจ” หรือ “เทศกาลกินเจ.”

ประวัติของการกินเจได้มาจากประวัติศาสตร์และศาสนาแต่งแต้มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและที่ผ่านมา:

1. จุดเริ่มต้น: การกินเจเริ่มขึ้นในภูเก็ต ประเทศไทย ประมาณสมัย 1825 โดยมีต้นกำเนิดจากการเรียนรู้ของชาวในชุมชนจีนที่อยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งการกินเจกลายการรักษาหรือศีลของพระเจ้าตานิมุย ผู้นำทางพุทธศาสนาของชาวจีน ที่วัดจุทรเขต เกาะภูเก็ต ในช่วงศตวรรษ 19 ของศตวรรษที่ 19.
2. ประเทศไทย: เทศกาลการกินเจเป็นการสืบสานสืบผ่านมาตลอดเวลาในภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากภูเก็ต ยังมีการเฝ้ารอความสงบสุขของจิตใจผ่านการตั้งศาลาพระทรรหารและแชนยารวมเกิดภูเก็ต เจติลา ต่างๆ ในช่วงเทศกาลนี้.
3. รายละเอียดของการเฝ้ารอ: ชุมชนที่ร่วมเฝ้ารอการกินเจจะรักษาการบริหารพระราชทานอาหารที่เป็นอาหารเจ และดำเนินพิธีกรรมพระบริหารต่างๆ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติอีกหลายอย่างเพื่อสุขาภิบาลตนเองและชุมชน. การเดินขบวนเป็นส่วนสำคัญในเทศกาลนี้ โดยมีผู้เคลื่อนไหวและเต้นรำในชุดกางเกงและเสื้อที่เป็นสีขาวหรือสีน้ำเงิน.
4. ความเชื่อ: การกินเจมีเชื่อว่าการรักษาการเฝ้ารอนี้จะช่วยขจัดบาป ล้างคนผิดเป็นบาปและประมาณบุญพระที่สูง และช่วยให้คนเป็นบริสุทธิ์และมีโชคดี.

เทศกาลการกินเจมักจัดขึ้นในเดือนปลายๆของปี ตามปฏิทินจีน โดยจะมีขบวนแห่งขับเคลื่อนและกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ตามมา. เทศกาลนี้นอกจากจะมีความสำคัญในด้านศาสนาแล้วยังมีความสำคัญในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง.

เทศกาลกินเจในประเทศไทยนั้นสืบทอดมาจากชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย โดยมีการถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ในช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติ ในช่วงเทศกาลกินเจ ชาวไทยเชื้อสายจีนจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ไหว้เจ้า กินเจ และบริจาคทาน

ในปัจจุบัน เทศกาลกินเจได้กลายเป็นประเพณีที่แพร่หลายในประเทศไทย ผู้คนจากทุกเชื้อชาติต่างก็ร่วมถือศีลกินเจเพื่อเสริมสร้างบุญบารมี รักษาสุขภาพ และลดการเบียดเบียนสัตว์

กินเจห้ามกินอะไรบ้าง

งดเว้น เนื้อสัตว์และอาหารที่มาจากสัตว์ รวมไปถึงผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย และผักชี

ตัวอย่างสิ่งที่ห้ามกินในช่วงกินเจ

• เนื้อสัตว์ทุกชนิด ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อปลา อาหารทะเล
• ผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย และผักชี
• ไข่ทุกชนิด
• อาหารที่มีส่วนผสมของไข่ นม น้ำมันจากสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เต้าหู้ไข่ บะหมี่ไข่ ขนมปัง เค้ก เนยแท้ วิปครีม น้ำมันหมู นม เนย ชีส โยเกิร์ต ไอศกรีม น้ำผึ้ง
• เครื่องปรุงรส ที่มีส่วนผสมของสัตว์ เช่น น้ำปลา น้ำมันหอย ผงปรุงรส หมู และ ไก่ เป็นต้น
• งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ และสิ่งของมึนเมา เช่น บุหรี่, ยาเส้น, ของเสพติดมึนเมา
• งดเว้นการกินอาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด เค็มจัด เพราะถือว่าจะเข้าไปทำลายสุขภาพ แต่ข้อนี้บางคนที่ปฏิบัติไม่เคร่งครัดนักก็ยังสามารถทานได้อยู่ เช่น ชอบรสเค็มจัดก็ใช้เกลือแทนน้ำปลา อันนี้ถือว่าไม่ผิด

กินเจกินอะไรได้บ้าง

อาหารที่กินได้ในช่วงกินเจนั้นมีมากมาย แค่ไม่ทานอาหารที่ห้ามดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็สามารถทานได้แทบทั้งสิ้น ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีโปรตีนเทียม หรืออาหารทดแทนที่ทำเลียนแบบอาหารต่างๆ ที่มีทั้งความเหมือนทั้งด้านรสชาติ และสารอาหาร รวมถึงหน้าตาก็น่ากินอีกด้วย เช่นเนื้อเป็ดเทียม หมูเทียม วันนี้ เราลองมาแบ่งอาหารเจที่สามารถกินได้ ตามประเภทของสารอาหารกันดูค่ะ ว่ามีอะไรที่กินได้บ้าง

โปรตีน : ในขณะที่เรากินเจนั้น เราสามารถได้รับโปรตีนจากการทานอาหารประเภทธัญพืช และถั่วต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ขาว นมถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งให้โปรตีนชั้นดี และยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

ตัวอย่างเมนูอาหารเจที่มีโปรตีนสูง

• ต้มจืดเต้าหู้
• ข้าวผัดเห็ด
• ผัดคะน้าเต้าหู้
• แกงเขียวหวานถั่วเหลือง
• ขนมจีนน้ำยาป่า

คาร์โบไฮเดรท : อาหารเจเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงอยู่แล้ว เนื่องจากมีการใช้ข้าว เส้นหมี่ และอาหารประเภทแป้งเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารเจหลายชนิด นอกจากนี้ เมนูของทอดก็เป็นที่นิยมในช่วงกินเจ ซึ่งก็ล้วนแต่มีปริมาณแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่สูงเช่นกัน

เกลือแร่ หรือแร่ธาตุ : สารอาหารเหล่านี้ มีอยู่ในผักต่างๆ แทบทุกชนิด ผักต่างๆ เป็นแหล่งที่ดีของแร่ธาตุหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี ทองแดง เป็นต้น

ผักที่มีแร่ธาตุสูง

• แคลเซียม: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม บรอกโคลี กะหล่ำปลี
• เหล็ก: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ตำลึง ใบตำแย ถั่วต่างๆ
• แมกนีเซียม: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ถั่วต่างๆ
• โพแทสเซียม: ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ถั่วต่างๆ ผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอ แตงโม
• สังกะสี: ถั่วต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี เมล็ดพืช
• ทองแดง: ถั่วต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

วิตามิน : อาหารช่วงกินเจ ที่อุดมไปด้วยวิตามินได้แก่ ผลไม้ นั่นเองค่ะ ผลไม้เป็นที่รู้จักว่ามีสารอาหารสูงและมีวิตามินมากมายที่สามารถเพิ่มในร่างกายของคุณได้. แต่วิตามินที่มีในผลไม้แต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ดังนั้นการรับประทานผลไม้หลายชนิดจะช่วยให้ร่างกายคุณได้รับวิตามินที่หลากหลายและสมดุลนะคะ

ไขมัน : อาหารเจเป็นอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง แต่จะเน้นไปที่ไขมันจากพืช เนยเทียม และครีมเทียม ไขมันจากพืชมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าไขมันจากสัตว์ แต่อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ควรรับประทารแต่พอดีนะคะ

เครื่องปรุงเจ : เครื่องปรุงเจมีให้เลือกทานหลากหลายยี่ห้อ ทั้งแบบปกติและแบบลดโซเดียม สามารถหาซื้อได้ตามใจชอบ แต่อย่าลืมสังเกตุเครื่องหมายธงเจ สีแดงเหลือง ที่ฉลากนะจ๊ะ เครื่องปรุงเจที่มีเครื่องหมายธงเจ สีแดงเหลือง นั้น เป็นเครื่องปรุงเจที่ผ่านการรับรองจากสมาคมอาหารเจแห่งประเทศไทย ว่าผลิตจากวัตถุดิบเจ และปราศจากส่วนผสมของสัตว์ทุกชนิด

อาหารเจกับอาหารมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร

• อาหารมังสวิรัติ: งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่สามารถรับประทานไข่และผลิตภัณฑ์จากนมได้
• อาหารเจแบบเคร่งครัด: งดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงไข่และผลิตภัณฑ์จากนม

คำแนะนำเพิ่มเติม

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มกินเจ ควรเริ่มจากการงดเนื้อสัตว์ก่อน จากนั้นค่อยๆ ลดการรับประทานไข่และนม เพื่อป้องกันอาการขาดสารอาหาร นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน

สำหรับผู้ที่กำลังรับประทานอาหารเจเพื่อสุขภาพเป็นหลัก การกินเจแบบไม่เคร่ง ไม่ได้ถือศีลหรือปฏิบัติตามหลักต่างๆ มากมายนัก ก็ไม่ได้ผิดอะไร ถือเป็นทางเลือกสุขภาพของแต่ละบุคคล การกินเจแบบไม่เคร่ง มีข้อดีคือ ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยไม่จำกัดเฉพาะอาหารเจเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้รับประทานอาหารเจรู้สึกสบายใจและมีความสุขกับการรับประทานอาหารมากขึ้น

สำหรับมือใหม่ ในการกินเจนั้น เดี๋ยวนี้ต้องบอกว่าสะดวกมากๆ เพราะนอกจากอาหารเจที่มีขายอยู่ทั่วไปมากมายในช่วงเทศกาลกินเจ ที่มีรสชาติอร่อย และถูกต้องตามหลักการกินเจแล้ว ตามร้านสะดวกซื้อยังมีอาหารเจมากมายให้เราเลือกซื้อมารับประทานอีกด้วย ขอให้หลายท่านที่กำลังเริ่มต้นกินเจ มีความสุขกับการกินเจนะคะ เพราะนอกจากจะได้บุญแล้ว ยังสุขภาพดีอีกด้วย

The post กินเจ กินอะไรได้บ้าง ห้ามกินอะไรบ้าง มาดูกัน !! appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

ก่อนอื่น เรามาลองรู้จักกับโซจูกันก่อน โซจู เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลั่นแบบเกาหลีที่มีสีใส คล้ายวอดก้า รสชาติหวานขมเล็กน้อย ผลิตจากข้าว มันเทศ หรือมันฝรั่งหมัก มีแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 10% ไปจนถึง 45% เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนเกาหลีใต้ จนเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมการดื่มของประเทศ

โซจูรสไหนอร่อย

จากการหาข้อมูล จากแหล่งต่างๆ เช่น Pantip หรือจากคลิปรีวิว การดื่มโซจู และลองทดสอบรสชาติทาง Youtube ทางเรารวบรวมข้อมูลและจัดอันดับโซจูรสชาติที่ดีที่สุด และอร่อยที่สุด โดยเราจะคัดเลือกจากยี่ห้อที่มีขายทั่วไป หาซื้อง่ายตาม 7-11 เป็นหลัก โดยยี่ห้อ โซจู คอมเบ แอลกอฮอร์ 12%-17% โดยผลจากเสียงโหวตของคนทั่วไป ว่า โซจูรสไหนอร่อย มีดังนี้ค่ะ

1. โซจู รสสตรอเบอร์รี่

รสที่ได้รับความเห็นต้องกันว่าอร่อย หอม ถูกใจสาวๆที่สุด เนื่องจากหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับกลิ่นของสตรอเบอร์รี่กันอยู่แล้ว หลายคอมเม้นจึงบอกว่าทานง่ายและหอมที่สุดในบรรดาทุกรสชาตินั่นเองค่ะ

2. โซจู รสองุ่นเขียว

รสที่สองที่มาแรงแซงโค้ง โดยขึ้นชื่อเรื่องความทานง่าย นั่นคือ โซจู รสองุ่นเขียว นั่นเอง หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ดื่มง่าย และยังหอมอีกด้วย สาวๆที่ชอบรสชาติเบาๆ ทานง่าน ต้องลองเลยค่ะ

3. โซจู รสพีช

อีก 1 รส ยอดนิยม นั่นก็คือรสพีช ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่ความหอมกลิ่นพีช ซึ่งบอกเลยว่า เข้ากับรสชาติของโซจูเป็นอย่างดี และยังสามารถนำไปผสมได้หลายแบบ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหลัก สำหรับคนชอบดื่มโซจูนั่นเองค่ะ ปริมาณแอลกอฮอร์ 12%

4. โซจู รส Jelly

โซจูรสที่มีความหวานหอม คล้ายเยลลี่ เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่หลายคนชอบ แต่อาจจะกินง่ายไม่เท่ารสองุ่นเขียว แต่ใครชอบกลิ่นองุ่นเคียวโฮ ก็ไม่ควรพลาดค่ะ ปริมาณแอลกอฮอร์ 12%

5. โซจู รส ยาคูลท์

โซจูรสยาคูลท์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสมที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลิตจากโซจูผสมกับยาคูลท์ ซึ่งเป็นนมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก โซจูรสยาคูลท์มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 12% เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติหวานอมเปรี้ยว และต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่สูง

โซจูรสยาคูลท์มีรสชาติที่แตกต่างจากโซจูแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีรสหวานจากยาคูลท์ และความเปรี้ยวจากนมเปรี้ยว ซึ่งช่วยตัดรสชาติขมของโซจู ทำให้ดื่มง่ายขึ้น โซจูรสยาคูลท์นิยมดื่มเป็นเครื่องดื่มค็อกเทล หรือดื่มผสมกับน้ำแข็ง

6. โซจู รส เกรปฟรุต

เป็นโซจูที่รสชาติออกแนวสดชื่นน แต่ยังได้กลิ่นแอลกอฮอร์อยู่ อาจจะไม่ใช่รสที่ทานง่าย แต่ความหวาน เปรี้ยวปลายๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นค่ะ ใครชอบแนวดีดๆ ต้องรสนี้เลย

7. โซจู รส Fresh

โซจูรส Fresh จะมีความออริจินอลเป็นรสชาติที่ดื่มยาก แต่แอลกอฮอร์เยอะ ผสมได้หลากหลาย สำหรับคนที่เคยดื่มมาแล้ว น่าจะค่อนข้างชอบกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวของแอลกอฮอร์จากตัวโซจู ที่หมักมาอย่างดี จนมีรสหวาน และ แอลกอฮอร์จะเยอะกว่ารสอื่น เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะดื่มเพียวๆ หรือผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ ก็อร่อย กลิ่นแอลกอฮอร์ไม่ดรอปค่ะ

โซจูผสมกับอะไรถึงจะอร่อย

โซจูผสมกับอะไรถึงจะอร่อยนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว โซจูสามารถผสมกับเครื่องดื่มที่มีรสหวานหรือรสเปรี้ยว เพื่อตัดรสชาติขมของโซจูได้ ตัวอย่างเช่น โซจูผสมกับโค้กหรือสไปรท์จะให้รสชาติหวานซ่า โซจูผสมกับน้ำผลไม้หรือนมเปรี้ยวจะให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว โซจูผสมกับกาแฟจะให้รสชาติเข้มข้น

นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ เช่น น้ำเชื่อม โซดา ผลไม้สด เป็นต้น ตัวอย่างเช่น โซจูผสมกับโค้กและน้ำเชื่อมแอปเปิ้ลจะให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว โซจูผสมกับสไปรท์และโซดาจะให้รสชาติซ่ามากขึ้น โซจูผสมกับน้ำผลไม้และผลไม้สดจะให้รสชาติสดชื่นยิ่งขึ้น โซจูผสมกับกาแฟและน้ำตาลทรายแดงจะให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ดังนั้น การเลือกสูตรผสมโซจูนั้นจึงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ทดลองผสมสูตรต่างๆ เพื่อหาสูตรที่ตนเองชื่นชอบมากที่สุด

สูตรผสมโซจู

โซจูสามารถผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ ได้หลากหลาย สูตรผสมโซจูที่ได้รับความนิยม ได้แก่

• โซจู + โค้ก สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติหวานซ่า ผสมโซจู 1 ส่วนกับโค้ก 2 ส่วน ใส่น้ำแข็งตามชอบ
• โซจู + สไปรท์ สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเปรี้ยวซ่า ผสมโซจู 1 ส่วนกับสไปรท์ 2 ส่วน ใส่น้ำแข็งตามชอบ
• โซจู + น้ำผลไม้ สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผสมโซจู 1 ส่วนกับน้ำผลไม้ 2 ส่วน เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำส้ม น้ำองุ่น เป็นต้น ใส่น้ำแข็งตามชอบ
• โซจู + นมเปรี้ยว สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผสมโซจู 1 ส่วนกับนมเปรี้ยว 2 ส่วน ใส่น้ำแข็งตามชอบ
• โซจู + กาแฟ สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเข้มข้น ผสมโซจู 1 ส่วนกับกาแฟ 2 ส่วน ใส่น้ำแข็งตามชอบ

7 สูตรลับแนะนำ จากเพจ Geonbae soju thailand

โซจูเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรสชาติหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว โซจูรสหวานอมเปรี้ยวจะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากรสชาติที่ดื่มง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งหัดดื่ม โซจูรสผลไม้ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากมีรสชาติที่สดชื่น เหมาะสำหรับการดื่มในช่วงฤดูร้อน

สำหรับคำถามที่ว่าโซจูรสไหนอร่อยนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล โซจูรสไหนที่ดื่มแล้วรู้สึกอร่อยและถูกใจมากที่สุด ก็ถือว่ารสนั้นอร่อยสำหรับคุณแล้ว แนะนำให้ลองชิมโซจูรสต่างๆ เพื่อหารสที่ตนเองชื่นชอบมากที่สุดจ้า

หัวข้อแนะนำ

• 60 ของกินเซเว่น ไม่อ้วน แคลน้อย ราคาประหยัด สำหรับคนอยากผอม
• แคปชั่นขี้เมา แคปชั่นร้านเหล้า กวนๆ อยากอ่อย เมารัก เมาค้าง อกหัก เฉียบๆ ครบ !
• 10 เมนู กับแกล้มง่ายๆ แกล้มเบียร์ก็ได้ แกล้มเหล้าก็ดี

The post โซจูรสไหนอร่อย ? ใน 7-11 ผสมกับอะไรดี โพสนี้ช่วยได้ !! appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

1. อกไก่นุ่มรสออริจินอล 80 แคลอรี่ ราคา 40 บาท
2. ไข่ต้ม 80 แคลอรี่ ราคา 16 บาท
3. สเต็กแฮมรมควัน 80 แคลอรี่ ราคา 40 บาท
4. สลัดครีม ลดไขมันและน้ำตาล 50% 90 แคลอรี่ ราคา 40 บาท
5. วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป รสสุกี้ 240 แคลอรี่ ราคา 39 บาท
6. โจ๊กรสไก่และข้าวโพด พร้อมข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมข้าวหอมมะลิแท้ 120 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
7. สลัดผัก 3 สี อกไก่และไข่ต้ม 190 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
8. นมเปรี้ยวดีไลท์ สูตรน้ำตาล 0.1% 30 แคลอรี่ ราคา 10 บาท
9. นมอัลมอนด์ Almond Breeze 45 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
10. นมจืด ปราศจากน้ำตาลแลคโตส 120 แคลอรี่ ราคา 40 บาท
11. โยเกิร์ต meiji Fat 0% 70 แคลอรี่ ราคา 15 บาท
12. Bulgaria Greek Yoghurt รสธรรมชาติ 60 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
13. ถั่วแระญี่ปุ่น 100 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
14. เมล็ดทานตะวัน กะเทาะเปลือก 160 แคลอรี่ ราคา 10 บาท
15. Kellogg’s Mueslix 5 Grains 120 แคลอรี่ ราคา 28 บาท
16. ปลาหมึกอบปรุงรส ตราเบนโตะ 15 แคลอรี่ ราคา 5 บาท
17. ทาโร่อบกรอบ 60 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
18. ลูกชิ้นอกไก่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 60 แคลอรี่ ราคา 45 บาท
19. ข้าวหอมมะลิผสมไรซ์เบอร์รี่ 220 แคลอรี่ ราคา 15 บาท
20. เต้าหู้ไข่ขาว 35 แคลอรี่ ราคา 15 บาท
21. สลัดทูน่า 130 แคลอรี่ ราคา 29 บาท
22. ทูน่าในน้ำแร่ 60 แคลอรี่ ราคา 49 บาท
23. ซุปมิโซะ 30 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
24. ซันไบทส์ ควินัว 220 แคลอรี่ ราคา 20  บาท
25. ชานม 170 แคลอรี่ ราคา 35 บาท
26. ทาโร่ ลดโซเดียม 30% 70 แคลอรี่ ราคา 20  บาท
27. แครกเกอร์มันฝรั่ง 140 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
28. เพรทช์รสแอปเปิ้ล-มันม่วง 170 แคลอรี่ ราคา 20  บาท
29. Gummy ขนมเคี้ยวหนึบ 70 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
30. ไข่ลวก 140 แคลลอรี่ / 2 ฟอง ราคา 16 บาท
31. ไข่ตุ๋นคัพสไตล์ญี่ปุ่น 120 แคลลอรี่ ราคา 19 บาท
32. ไข่พะโล้ยางมะตูม 180 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
33. นม High Protein Whey Chocolate 240 แคลอรี่ ราคา 49 บาท
34. นม High Protein Whey Vanilla 190 แคลอรี่ ราคา 49  บาท
35. นม High Protein Whey  Zero Sugar รสจืด 170 แคลอรี่ ราคา 49 บาท
36. นม High Protein Whey  Zero Sugar กลิ่น Almond 170 แคลอรี่ ราคา 49 บาท
37. น้ำเต้าหู้  ผสมแมงลัก 130 แคลอรี่ ราคา 13 บาท
38. น้ำเต้าหู้ รสหวานน้อย 100 แคลอรี่ ราคา 13 บาท
39. Dutchie Greek Yoghurt รสธรรมชาติ 110 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
40. Dutchie Greek Yoghurt with Black Cherry 110 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
41. Bulgaria Greek Yoghurt Golden Honey 100 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
42. ขนมปังโฮลวีท แผ่นบาง 65  แคลอรี่ ราคา 20 บาท
43. ขนมปังโฮลวีท แผ่นหนา 150 แคลอรี่ ราคา 37 บาท
44. นมถั่วเหลือง รสจืด Lactasoy 140 แคลอรี่ ราคา 10 บาท
45. ICHITAN GREEN LAB CALMING CHAMOMILE No Sugar 0 แคลอรี่ ราคา 40 บาท
46. ICHITAN GREEN LAB CALMING CHAMOMILE หวานน้อย 60 แคลอรี่ ราคา 40 บาท
47. สลัดผัก Oh! Veggies 150 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
48. Suntory TEA Plus ทีพลัส สูตรไม่มีน้ำตาล 0 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
49. OISHI GOLD WAKOUCHA โออิชิ โกลด์ วาโคฉะ สูตรไม่มีน้ำตาล 50 แคลอรี่ ราคา 30 บาท
50. ITO EN ชาเขียวกลิ่นมะลิ สูตรไม่มีน้ำตาล 0 แคลอรี่ ราคา 30 บาท
51. SHIZUOKA Green Tea ชาเขียวชิซึโอกะ สูตรไม่มีน้ำตาล 0 แคลอรี่ ราคา 30 บาท
52. Tokyo Brew Cold Brew 15 แคลอรี่ ราคา 35 บาท
53. True Coffee อเมริกาโน่ 0 แคลอรี่ ราคา 35 บาท
54. ดอยคำ น้ำเจียวกู้หลานและดอกคำฝอย 25 แคลอรี่ ราคา 30 บาท
55. เจเล่บิวตี้แบล็คเคอร์แรนท์ 30 แคลอรี่ ราคา 10  บาท
56. Daily Mate 25 แคลอรี่ ราคา 25 บาท
57. Coca-ColaNo Sugar 0 แคลอรี่ ราคา 10 บาท
58. นมถั่วเหลือง สูตรผสมงาดำ น้ำตาลน้อย 100 แคลอรี่ ราคา 13 บาท
59. นมพิสทาชิโอ รสไม่หวาน 50 แคลอรี่ ราคา 20 บาท
60. นมถั่วเหลืองออร์แกนิค สูตรโปรตีนสูง 230 แคลอรี่ ราคา 40 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับของในเซเว่นฉบับไม่อ้วน สายลดน้ำหนัก ถูกอันไหนบ้าง เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว เชื่อว่าหลาย ๆ คน ก็คงจะชอบกินขนมขบเคี้ยว อยู่แน่นอน เพราะแอดก็ชอบเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้น มันจะดีกว่าไหม ถ้าหากเราเลือกของกินที่อร่อย และตอบโจทย์ความชอบเรา แต่ไม่อ้วน เรียกได้ว่า ตอบโจทย์ทั้งความสุข และสุขภาพได้อีกด้วยนะ ฝากไว้อีกนิดหน่อย ถึงแม้เราจะเลือกทานอาหารที่มีแคลน้อยแล้วนั้น สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปเลย นั่นก็คือ ปริมาณในการทานด้วยนะคะ แม้จะเลือกทานของที่มีแคลน้อย แต่ทานในปริมาณที่มากๆ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเหมือนกันค่ะ

The post 60 ของกินเซเว่น ไม่อ้วน แคลน้อย ราคาประหยัด สำหรับคนอยากผอม appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

15 เมนูไข่กุ้ง ง่ายๆ

เมนูกุ้ง เมนูที่ 1 : กุ้งทอดเนยกระเทียมพริกไทย

วัตถุดิบ

• กุ้ง 10-12 ตัว
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
• พริกไทย
• กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะ
• เนย 2 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอม

ขั้นตอนการทำ

1. มาเริ่มทำกัน เตรียมกุ้ง ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงตามสูตรเลยค่ะ
2. นำกระเทียมไปเจียวกับเนยจนเหลืองกรอบหอมฟุ้ง นำมาพักไว้
3. นำกุ้งไปผัดกับเนยหอมมากๆ เมื่อกุ้งสุก โรยด้วยต้นหอมซอย
4. ตักเสิร์ฟราดด้วยกระเทียมเจียว ทานกับข้าวสวยร้อนๆ

ขอบคุณสูตรจากคุณ beemyhoney / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41356135

เมนูที่ 2 : ผัดกะเพรากุ้งหมูสับ

วัตถุดิบ

• หมูสับ
• กุ้งสด
• ใบกะเพรา
• พริกจินดาแดง กระเทียม สับหยาบๆ
• ซอสฝาเขียว
• น้ำปลา
• น้ำตาล

ขั้นตอนการทำ

1. นำเอาหมูสับไปรวนก่อน รวนไปเรื่อยๆจนเนื้อหมูเริ่มสุก
2. ใส่พริกกระเทียมที่สับหยาบๆไว้ลงผัด ผัดต่อไปเรื่อยๆ
3. เอากุ้งที่เราผัดแยกไว้ใส่ลงไปผัดด้วยกัน 
4. ปรุงรสใส่ซอสฝาเขียว น้ำปลา น้ำตาล ตามชอบค่ะ
5. ใส่ใบกะเพราลงไปและผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน เท่านี้ก็เรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

ขอบคุณสูตรจากคุณ 1485 journey / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41548094

เมนูที่ 3 :  ผัดกะเพรากุ้งพริกแห้ง 

วัตถุดิบ

• กุ้งแม่น้ำตัวย่อมๆ
• ไข่ไก่
• ใบกะเพรา
• พริกแห้งทอด
• กระเทียมสับ
• น้ำมัน
• ซอสปรุงรส
• ซอสหอยนางรม
• น้ำตาลทราย
• ผงปรุงรส

ขั้นตอนการทำ

1. ผมทอดไข่ดาวก่อน แยกทอดไข่ขาวกับไข่แดง จะได้ดูเป็นลาวาสวย
2. ใช้นำมัน ใส่กระเทียมสับ ผัดเคล้า ตามด้วยใส่กุ้ง ผัดจนสุก
3. ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ผงปรุงรส น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม ผัดคลุกเคล้า
4. ใส่ใบกะเพรา ผัดคลุกเคล้า ตามด้วยพริกแห้งทอด 

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด/ ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41461950

เมนูที่ 4 : มะระผัดไข่กุ้งสดไข่คน

วัตถุดิบ

• มะระ
• กุ้ง
• เกลือ
• น้ำตาล
• ซีอิ้วขาว
• ซอสหอยนางรม
• ไข่ไก่

ขั้นตอนการทำ

1. เริ่มจากหั่นมะระและใช้ช้อนคว้านไส้ออกให้หมด จากนั้นก็ซอยมะระบางๆ แล้วนำมะระขยำกับเกลือจากนั้นก็ใส่น้ำแช่ไว้ 20 นาที เพื่อลดความขม
2. เจียวกระเทียมให้หอมเหลืองแล้วนำมะระลงผัดเติมน้ำเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา เกลือ ซีอิ้วขาว และซอสหอยนางรม จากนั้นก็ใส่กุ้งลงไปผัดให้เข้ากัน
3. กุ้งเริ่มสุกก็ตอกไข่ลงไปผัดต่อจนไข่สุกเล็กน้อยเหมือนไข่คนก็ปิดไฟได้เลย หรือใครจะผัดจนไข่สุกก็ได้ตามชอบเลย
4. เสร็จแล้วตักใส่จานโรยหน้าด้วยพริกไทยเพิ่มรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น

ขอบคุณสูตรจากคุณ ครัวคิดนิ kidcook / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41317080

เมนูที่ 5 : ข้าวผัดกะเพรากุ้งทอด

วัตถุดิบ

• ข้าวสวย
• กุ้งขาวแกะเปลือก ผ่าหลังแล้ว
• ใบกะเพรา
• กระเทียม, พริกซอย
• แป้งทอดกรอบ
• น้ำมัน
• ซอสหอยนางรม
• ผงปรุงรส
• ซอสปรุงรส
• น้ำตาล
• พริกไทยป่น

ขั้นตอนการทำ

1. ทอดกุ้งคลุกแป้งทอดกรอบ ทอดจนสุกและพักไว้
2. ใช้น้ำทอดกุ้งเล็กน้อย ผัดกับข้าวสวย ปรุงรสด้วย ผงปรุงรส ซอสปรุงรส ซอสหอย น้ำตาลทราย พริกไทย ผัดคลุกเคล้า
3. จากนั้นใส่ กระเทียมกับพริกซอย ลงผัดคลุกเคล้า
4. ใส่ใบกะเพราลงไปผัดคลุกเคล้า
5. นำกุ้งทอดลงไปผัดคลุกเคล้า

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด/ ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41215544

เมนูกุ้ง เมนูที่ 6 : กุ้งกระเทียมพริกไทย  

วัตถุดิบ  

• กุ้ง 5-7 ตัว   
• เกลือ 1/2 ช้อนชา 
• ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
• พริกไทยป่น  
• นมสด 3 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

1. ผสมกุ้งและเครื่องปรุงทุกอย่างผสมกัน
2. เจียวกระเทียมให้หอม เบาไฟให้อ่อนสุด
3. ใส่กุ้งลงไปทอดจนสุกหอมพอดี ตักเสิร์ฟทานกับข้าวร้อนๆ หอมอร่อยมากๆ

ขอบคุณสูตรจากคุณ beemyhoney / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/40944303

เมนูที่ 7 : แกงส้มชะอมไข่ทอดใส่กุ้งสด

วัตถุดิบ

• พริกแกงส้ม 2-3 ช้อนโต๊ะ
•  น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
•  หอมแดง 5 หัว
• มะนาว 
•  เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำมะขามเปียก 4-5 ช้อนโต๊ะ
•  กุ้งสด 7-10
• ไข่ไก่ 2-3
• ชะอม 1 กำ
• แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

1. แบ่งกุ้ง 3 ตัว หัวกุ้ง และเปลือกกุ้ง ไปต้มทำน้ำซุปกุ้ง
2. นำเนื้อกุ้งที่ต้มสุกไปตำกับ พริกแกงส้ม และหอมแดง จะได้พริกแกงส้มเข้มข้น
3. นำพริกแกงส้มไปใส่ในน้ำซุปกุ้ง ปรุงรส ใส่น้ำ มะนาวปรับรสให้หอม เมื่อน้ำแกงส้มเดือดให้ใส่กุ้งที่เหลือลงไป
4. ชะอม+ไข่+แป้งทอดกรอบ นำชะอมไปทอดในหม้อจะทำให้ได้ชะอมทอดที่หนานุ่มทานอร่อย ทอดจนกรอบฟู
5. นำใส่ในชาม ราดด้วยน้ำแกงส้มเข้มข้น พร้อมเสิร์ฟ 

ขอบคุณสูตรจากคุณ beemyhoney / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/40944303

เมนูที่ 8 : กุ้งผัดพริกขี้หนูสวน

วัตถุดิบ

• กุ้งสด
• ​กระเทียม​
• พริกขี้หนูสวน
• น้ำปลา
• ซอสหอยนางรม
• น้ำตาลทราย

ขั้นตอนการทำ

1. หั่นกุ้งเป็นชิ้นเล็กๆนะคะ​ เพราะมีความรู้สึกว่าชิ้นเล็กๆ​ มันจะเข้าเนื้อดีกว่า​  กระเทียมสับ​พอแหลกๆ
2. พริกขี้หนูเอาแบบบุๆพอหอมนะคะ
3. ใส่น้ำมันเอากระเทียมลงไปผัดให้หอม
4. ตามด้วยพริกขี้หนู
5. ผัดให้เข้ากัน ใส่กุ้งลงไปได้เลย
6. ผัดพอสุดปรุงรสด้วย​น้ำปลา​ ซอสหอยนางรม​ น้ำตาลทราย
7. เพียงแค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย​ตักใส่จานได้เลยค่ะ

ขอบคุณสูตรจากคุณ พี่ขวดเข้าครัว/ ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41105122

เมนูที่ 9 : แกงคั่วกุ้งใบชะพลู

วัตถุดิบ

• กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 
• พริกแกงใต้ 2 ช้อนโต๊ะ 
• กุ้งสด 500 กรัม 
• หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง 
• หางกะทิ 1 ถ้วยตวง 
• ใบมะกรูด 10 ใบ 
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 
• ผงปรุงรส 1 ช้อนชา 
• ใบชะพลู 150-200 กรัม 
• น้ำตาลปั๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

1. จับใบชะพลูมาเป็นกำ หั่นประมาณครึ่งนิ้ว 
2. ใส่หางกะทิลงไปในกระทะครึ่งหนึ่ง พอหางกะทิเริ่มเดือดก็ใส่พริกแกงใต้และกะปิลงไป 
3. ใส่กุ้งที่ล้างและผ่าเอาไส้ออกแล้วลงไป ใส่หางกะทิลงไปให้ท่วมกุ้ง 
4. พอกุ้งสุกครึ่งหนึ่งก็ใส่ใบชะพลูลงไป ตามด้วยหัวกะทิ 
5. ใส่ใบมะกรูดลงไป ปรุงรส ใส่หัวกะทิให้หมด 
6. ต้มจนเดือด และน้ำงวด

ขอบคุณสูตรจากคุณ kruahunsa / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41728300

เมนูที่ 10 : กุ้งผัดพริกขี้หนูสวน

วัตถุดิบ

• กุ้ง 500 กรัม 
• พริกขี้หนู 20 เม็ด 
• กระเทียม 20 กลีบ 
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
• ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ 
• น้ำตาลทราย 0.5 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

1. แกะเปลือกกุ้งและหัวกุ้งออก เหลือมันกุ้งเอาไว้ ผัดออกมาจะได้มีสีสวย 
2. ผ่าหลังกุ้ง เอาไส้ออก 
3. ตำกระเทียม พริกขี้หมู ไม่ต้องละเอียดมาก 
4. ใส่น้ำมันลงไปในกระมะ เปิดเตา พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียม พริกขี้หนูที่ตำไว้ลงไป ผัดจนมีกลิ่นหอม 
5. ใส่กุ้งลงไปผัดจนกุ้งเปลี่ยนเป็นสีแดง 
6. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ซอสหอยนางรม ผัดให้เข้ากัน

ขอบคุณสูตรจากคุณ kruahunsa / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41701961

เมนูกุ้ง เมนูที่ 11 : ไข่เจียวฟูกุ้ง   

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• กุ้งขาวแกะ ผ่าหลังแล้ว 7-8 ตัว
• น้ำมันสำหรับทอด 300 Ml. 
• แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ให้น้ำมันร้อนจัด / แล้วทำการคลุกแป้งทอดกรอบกับกุ้ง
2. เบาไฟลงเหลือปานกลาง ใส่กุ้งลงไปทอด สัก 30 วินาที ถึง 1 นาที แล้วตักสะเด็ดน้ำมัน
3. ใช้ไฟกลาง ตีไข่ จากนั้นนำไข่เทผ่านกระชอนทอด (ดูในคลิปนะครับ) ทอดไปเรื่อยๆจนสุกทั้ง 2 ด้าน 
4. นำกุ้งลงวางไปบนไข่ ทอดต่อให้กรอบอีกสักครู่ แล้วตักขึ้นเลย สะเด็ดน้ำมัน

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด/ ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41369404

ถ้าชอบเมนูไข่ ลองดูโพสนี้เพิ่มเติมจ้า 10 เมนูไข่ไก่ ง่ายๆ แต่ไม่น่าเบื่อ แถมยังอร่อย ประหยัดเวลา ไม่ยุ่งยาก

เมนูที่ 12 : กุ้งผัดคะน้ากรอบๆ

วัตถุดิบ

• พริก
• กระเทียม
• กุ้งขาว
• ผงปรุงรส
• ซอสปรุงรส
• น้ำตาลทราย
• ซอสหอย
• คะน้า

ขั้นตอนการทำ

1. เทน้ำมันลงไปเล็กน้อย ใส่พริกกระเทียมตำ ผัดคลุกเคล้า
2. ใส่กุ้งขาวลงไป ผัดคลุกเคล้า จนสุก ปรุงรสด้วยผงปรุงรส, ซอสปรุงรส, น้ำตาลทราย, ซอสหอย
3. ใส่คะน้าลวกลงไป ผัดคลุกเคล้าครู่เดียว

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41039697

เมนูที่ 13 : ผัดยอดมะพร้าวอ่อนใส่กุ้งสดฉ่า

วัตถุดิบ

• ยอดมะพร้าวอ่อน เลือกส่วนปลายที่อ่อนๆเอามาหั่นเป็นแผ่นยาวหนาพอดี
• กระเทียมสับ
• น้ำซุป
• น้ำมันพืช
• ซอสหอยนางรม
• พริกไทยป่น

ขั้นตอนการทำ

1. กุ้งขาวแกะเปลือกแกะหัวแกะหาง ผ่าหลัง เอามาฉ่าในน้ำมันพืชที่กำลังร้อน รีบผัดกลับไปกลับมา 2 นาที ให้กุ้งสุกฉ่ำกำลังดี ตักพักไว้ น้ำมันที่ได้จากการฉ่ากุ้ง เก็บไว้เอาไปผัดต่อ
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันที่ฉ่ากุ้งไว้แล้ว เติมน้ำมันพืชเพิ่มอีกนิดหน่อย ตั้งไฟกลาง
3. น้ำมันร้อน เอากระเทียมสับลงไปผัดให้เหลืองหอม
4. เอายอดมะพร้าวอ่อนที่หั่นไว้ลงไปผัดและใส่น้ำซุปลงไป
5. ปิดฝากระทะ หมั่นคนทุก 2 นาที ทำการอบฝากระทะจนกว่าจะนิ่ม ประมาณ 14 นาที
6. เมื่อยอดมะพร้าวอ่อนสุกนิ่ม ทำการปรุงรสด้วยซอสหอยนางรมและพริกไทยป่น
7. ใส่กุ้งฉ่าลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานพร้อมกิน

ขอบคุณสูตรจากคุณ บ้าน6ปริญญา / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41415867

เมนูที่ 14 : ข้าวไข่ข้นกุ้ง

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่
• น้ำปลา
• กุ้งแม่น้ำ
• น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำ

1. นำกุ้งไปลวกกับน้ำร้อนก่อน สัก 3 รอบ 
2. จากนั้นก็มาเตรียมทำไข่ข้น แบบเยิ้มๆ  ใส่น้ำปลาตีกับไข่
3. แล้วนำกุ้งมาวางบนไข่ และ โปะราดข้าวเลย

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด/ ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41453102

เมนูที่ 15 : ขนมปังหน้ากุ้ง

วัตถุดิบ

• ขนมปัง6-8 แผ่น 
• กุ้ง 5-8 ตัว (สับ) 
• ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา 
• น้ำมันงา 1 ช้อนชา 
• น้ำตาล 1/2 ช้อนชา 
• ผงสามเกลอ 1/2 ช้อนชา (หรือกระเทียม พริกไทย รากผักชี ตำรวมกัน) 
• แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ขาว 1 ฟอง

ขั้นตอนการทำ

1. นำกุ้งสับ ผสมกับเครื่องปรุงตามสูตร จะได้เนื้อกุ้งหอมเด้งน่าทาน
2. หั่นขนมปังเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ
3. ตักหน้ากุ้งใส่บนขมปัง และนำขนมปังอีกชิ้นปิดเหมือนแซนวิช
4. นำไปทอดด้วยไฟอ่อนๆ จนสุกเหลืองงกรอบน่าทาน 
5. พักไว้จนคลายร้อนจะได้ขนมปังหน้ากุ้งที่กรอบนอกนุ่มใน ทานกับน้ำจิ้มไก่อร่อยเพลินมากค่ะ

ขอบคุณสูตรจากคุณ beemyhoney / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/40974270

เป็นอย่างไรกันบ้างสาวกกุ้ง กับ 15 เมนูจากกุ้งที่เราได้ทำการรวบรวมมาให้ทุกคน เชื่อว่ากุ้งเป็นวัตถุดิบที่หลายๆคนโปรดปราน อย่างแน่นอน เพราะกุ้งเมื่อได้มีการนำมาใช้ทำอาหารแล้วนั้น มีรสชาติอร่อย อีกทั้งนำมาทำได้สารพัดเมนู ฉะนั้นกุ้งจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับท่านที่เบื่อกับอาหารเดิมๆ ลองนำกุ้งไปใช้ในการนำเมนูใหม่ๆ ได้ตามใจชอบเลยนะคะ อย่าลืมสูตรที่เรานำเสนอไปลองทำด้วยนะคะ อร่อย ถูกใจแน่นอน

The post รวมสูตร เมนูกุ้ง สำหรับคนมีกุ้ง แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

นอกจากนี้นั้น ไข่ไก่ ก็นับได้ว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เนื่องจากเต็มไปด้วยโปรตีน เลซิธิน (lecithin) วิตามิน A, B1, B2, D แคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งที่กล่าวมานี้นั้น ก็ล้วนแล้วแต่จะเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในการพัฒนาและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ถ้าหากท่านพร้อมแล้ว เราไปดูไอเดียเมนูจากไข่ไก่ พร้อมๆกันเลยค่ะ

10 เมนูไข่ไก่ ง่ายๆ

กะเพราไข่

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
• ใบกะเพรา 1 กำ
• กระเทียม 4 กลีบ
• พริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้า 6-8 เม็ด
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
• ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
• น้ำซุปหรือน้ำเปล่า ครึ่งแก้ว (5ช้อนโต๊ะ)
• น้ำมันสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

1. ขั้นตอนแรก ตั้งกระทะเปิดไฟใส่น้ำมันรอกระทะให้ร้อน ในระหว่างนั้น ตำพริกกับกระเทียมไว้รอ ตอกไข่ใส่ถ้วยตีไข่พอแตกไม่ต้องละเอียดมาก
2. หลังจากที่น้ำมันร้อน ให้เทไข่ลงไปกวนให้สุกแล้วตักขึ้นพักไว้ก่อน ตั้งกระทะเปิดไฟใส่น้ำมันอีกครั้ง รอให้กระทะร้อน
3. ใส่พริกกับกระเทียมที่โขลกไว้แล้ว นำไปผัดให้มีกลิ่นหอม ก็ใส่ไข่ที่พักไว้ลงไปผัดต่อให้เข้ากัน
4. ผัดไปสักพักให้ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม, น้ำตาลทราย, ซอสปรุงรส, ผงปรุงรส, และทำการเติมน้ำลงไป ผัดให้เข้ากัน 
5. ชิมรสตามชอบ นำใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากัน เป็นอันใช้ได้ปิดเตาได้เลย
6. ตักใส่จานพร้อมทา ก็จะได้ผัดกะเพราไข่ ที่ทั้งทำง่ายและก็อร่อย

ขอบคุณสูตรจากคุณ GO CAMPING / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/39750207

ข้าวไข่ข้น หมูย่าง

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• นมสด
• หมูย่างที่เหลือมาจากเมื่อวาน หั่นเป็นชิ้นๆแล้ว
• น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำ

1. นำหมูย่างที่มีอยู่ มาอุ่นในกระทะแล้วพักไว้ก่อน
2. ทำการผสมตีไข่กับนมให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป เทไข่ลงไปใช้ตะเกียบค่อยๆเขี่ยไข่ให้เป็นลักษณะไข่ข้น
4. ใส่หมูย่างลงไป บนไข่
5. ยกขึ้นจากเตา ร่อนลงบนข้าวร้อนๆ

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41668272

กุนเชียงผัดไข่

วัตถุดิบ

• กุนเชียงหั่น
• ไข่ไก่
• ต้นหอมผักชีหั่น
• กระเทียมตำ
• พริกซอย
• น้ำมันพืช
• น้ำเปล่า
•  น้ำตาล
• ผงปรุงรส

ขั้นตอนการทำ

1. ลวกกุนเชียงหั่นให้สุก แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป ใส่กระเทียมผัดคลุกเคล้า
3. ใส่ไข่ไก่ ผัดคลุกเคล้า จนไข่สุก
4. ปรุงรสด้วย เครื่องปรุง
5. ใส่กุนเชียงลวก ต้นหอมผักชี พริกซอย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41704577

---

วุ้นเส้นไข่ผัดกะหล่ำปลี

วัตถุดิบ

• วุ้นเส้น (ใช้กรรไกรตัดให้สั้นลงหน่อย) 
• ไข่ไก่
• กระเทียมสับ
• กะหล่ำปลีหั่น
• ต้นหอมหั่น
• ผงปรุงรส
• น้ำตาลทราย
• ซอสปรุงรส
• น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำ

1. ผสมวุ้นเส้น, ไข่ไก่, ผงปรุงรส ตีเข้าด้วยกัน
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป ทอดส่วนผสมจนสุกทั้ง 2 ด้าน แล้วหั่นให้เป็นชิ้นพอคำ
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป ใส่กระเทียมสับ ผัดคลุกเคล้าจนพอเหลือง
4. ใส่กะหล่ำปลีลงไป ผัดคลุกเคล้าให้สุก แล้วปรุงรสด้วย ผงปรุงรส, น้ำตาลทราย, ซอสปรุงรส ผัดคลุกเคล้า
5. ใส่วุ้นเส้นไข่ ลงไป ทำการผัดคลุกเคล้า แล้วใส่ต้นหอมลงไปผัดเคล้า

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี้ด / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41713575

---

ไข่คั่วพริกเกลือ

วัตถุดิบ

• ซอยพริกจินดา สามารถผสมพริกขี้หนูสวนยิ่งดีมาก  
• ต้นหอม ซอยท่อนเล็กๆ  
• ซอยกระเทียม เจียวให้เป็นสีเหลือง พักทิ้งไว้ 
• ตอกไข่เป็ด 5 ฟอง แยกเอาไข่แดงออกมา 2 ฟอง ไว้ใส่ทีหลัง 

ขั้นตอนการทำ

1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อนๆ เอาไข่ใส่ลงไป คนเป็นช่วงๆ
2. ใส่พริกไทยหน่อย ใส่เกลือนิดหน่อย ซีอิ้วดำเค็มตราเสือ ใส่ที่กระทะให้มีกลิ่นหอมๆ ไหม้ๆ นิดหน่อย *ขั้นตอนนี้ท่านต้องระวังอย่าใส่เยอะ เพราะจะทำให้เค็มได้ เนื่องจากใส่เกลือลงไปในไข่แล้วส่วนหนึ่ง 
3. คลุกไข่ให้เข้ากัน นำพริกใส่ไป ผัดให้ทั่ว เอาไข่แดงที่เหลือใส่ตามไป คนให้ทั่วๆ จากนั้น เอาหอมซอยใส่ไป ผัดให้เข้ากันเป็นอันใช้ได้

ขอบคุณสูตรจากคุณ กานต์(วีระพัฒน์) / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41364392

---

ไข่ข้นปูชีส

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• เนื้อปู (ใช้เนื้อก้ามปูแช่แข็ง)
• มอสซาเรลลาชีส
• นมสดรสจืด
• ซอสถั่วเหลือง
• ต้นหอมซอย
• น้ำมันทำอาหาร

ขั้นตอนการทำ

1. ตีไข่จำนวน 2 ฟอง ใส่นมสดรสจืดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ และปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองนิดหน่อย
2. เทไข่ลงในน้ำมัน ใส่น้ำมันมะกอก ใช้ไฟอ่อนๆ ถ้าใช้ไฟแรงระวังจากไข่ข้นจะกลายเป็นไข่เจียวได้นะคะ
3. ใส่เนื้อปู (หรือจะใช้แฮมหรืออะไรก็ได้ที่ชอบ) และโรยชีสลงไป ความสุกของไข่ตามที่ชอบได้เลย จะสุกมากหรือสุกน้อยแบบไข่เยิ้มๆ ชอบแบบไหนจัดได้เลย
4. โปะไข่บนข้าวสวยร้อนๆ โรยต้นหอมซอยนิดหน่อย เป็นอันเรียบร้อยสำหรับไข่ข้นปูชีส ใครจะบีบซอสมะเขือเทศเพิ่มลงไปก็อร่อยอีกแบบนะคะ แนะนำว่า ทำแล้วให้รีบทานเลย เพราะชีสจะมีความยืดดีมาก

ขอบคุณสูตรจากคุณ KateVariety / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41141765

---

ไข่ขยี้กุ้ง

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• กุ้งสด
• กระเทียม
• พริกขี้หนู
• น้ำปลา
• น้ำมันทำอาหาร

ขั้นตอนการทำ

1. นำกุ้งลงผัดกับน้ำมัน ผัดให้กุ้งแค่พอสุก
2. ตอกไข่ลงในกระทะ ขยี้ไข่เบาๆ ให้ไข่พอแตก
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย แนะนำใช้น้ำปลาแท้จะหอมอร่อยมากๆค่ะ
4. ใส่กระเทียมสับและพริกขี้หนูสับลงไป จากนั้นราดกับข้าวสวยร้อนๆ  

ขอบคุณสูตรจากคุณ KateVariety / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41141765

---

ไข่ม้วนไส้กรอก

วัตถุดิบ

• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• ไส้กรอก 1 แท่ง
• มอสซาเรลลาชีส
• ซอสมะเขือเทศ
• น้ำมันทำอาหาร

ขั้นตอนการทำ

1. ตีไข่ 2 ฟอง ตั้งน้ำมันใช้ไฟอ่อนๆ จากนั้นเทไข่ลงในกระทะให้
2. วางแท่งไส้กรอกบนไข่และโรยชีสลงไปเป็นแผ่นบางๆ
3. ม้วนไข่ห่อกับไส้กรอก และเทไข่ที่เหลือลงไปม้วนอีกชั้นหนึ่ง ก็เรียบร้อย  
4. ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่และทานเข้าไปด้วยเข้ากันมาก เพิ่มรสชาติด้วยซอสมะเขือเทศ อร่อยลงตัวเลยค่ะ  

ขอบคุณสูตรจากคุณ KateVariety / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41141765

---

ไข่เจียวทรงเครื่อง

วัตถุดิบ   

• ไข่ 3-4 ฟอง   
• พริกหวาน   
• หอมใหญ่  
• เห็ดเข็มทอง (หรือเห็ดอื่นๆ)  
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ้วขาว  1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย  1ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. ไข่ 3-4 ฟอง ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
2. ทอดไข่เจียวให้ฟูอร่อย แล้วพักเอาไว้
3. เจียวกระเทียม นำผักลงไปผัด ปรุงรสตามสูตร เติมน้ำเล็กน้อย
4. ใส่เห็ดเข็มทอง (หรือเห็ดอื่นๆ ตามชอบ)
5. ใส่ไข่เจียวลงไปผัดคลุกเคล้าพอเข้ากัน เสร็จแล้วค่ะไข่เจียวทรงเครื่อง หอมเด้งอร่อยครบรส

ขอบคุณสูตรจากคุณ beemyhoney / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >> https://pantip.com/topic/41200892

---

พิซซ่าไข่กระทะร้อน จากแป้งหอยทอด

วัตถุดิบ    

• แป้งหอยทอด
• น้ำเปล่า
• ไข่ไก่
• ต้นหอมซอย 
• ผงปรุงรส
• พริกไทยป่น
• น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำ

1. ทำการผสมแป้งกับน้ำเปล่า คนให้ละลายเข้ากัน (แป้ง3 ช้อน น้ำเปล่า ครึ่งถ้วย โดยประมาณ) 
2. ใส่ผงปรุงรส แล้วคนให้เข้ากัน
3. ตอกไข่ใส่ 2 ฟอง แล้วตีให้เข้ากัน
4. ใส่พริกไทย และ ต้นหอมซอย และ คนให้เข้ากัน
5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป เมื่อร้อนแล้ว ให้เทส่วนผสมลงไปทอด ให้สุกทั้ง 2 ด้าน ทอดด้วยไฟปานกลาง

ขอบคุณสูตรจากคุณ หมีซี๊ด / ดูวิธีทำเวอร์ชั่นเต็ม >>https://pantip.com/topic/41588058

ก็จบไปแล้วสำหรับ 10 เมนูเด็ดๆจากไข่ไก่ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ชอบเมนูไหนกันบ้าง ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าแต่ละเมนูที่เราได้เลือกมานำเสนอในวันนี้นั้น เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เนื่องจากไข่ไก่เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำไปใช้ในการทำอาหารได้อีกมากมายเลยทีเดียว โดยในแต่ละเมนูที่เราได้เลือกมานำเสนอในวันนี้นั้น ก็จะเป็นเมนูที่สามารถทำได้ง่ายๆ วัตถุดิบไม่เยอะ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ทั้งนี้ทั้งนั้นท่านก็ควรที่จะคัดเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ ให้มีความสะอาด ปลอดภัย และอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักได้รับคุณค่าสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ

หัวข้อแนะนำมาแรงขณะนี้

• 10 เมนู กับแกล้มง่ายๆ แกล้มเบียร์ก็ได้ แกล้มเหล้าก็ดี

The post 10 เมนูไข่ไก่ ง่ายๆ แต่ไม่น่าเบื่อ แถมยังอร่อย ประหยัดเวลา ไม่ยุ่งยาก appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

คีโต คือ การลดน้ำหนัก ด้วยการทานอาหารที่มีไขมันสูง และคาร์โบไฮเดรตต่ำ เพื่อให้ร่างกาย เข้าสู่ภาวะคีโตซิส หรือย่อมาจาก Ketogenic Diet ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนคาร์โบไฮเดรต ซึ่งทำให้ร่างกายหลั่งสารที่ตรวจได้ เรียกว่า คีโตน(Ketone) คีโตนเป็นสารที่ได้จากกระบวนการนี้ ซึ่งสามารถวัดได้ในเลือดหรือปัสสาวะ เพื่อให้อยู่ในสภาวะคีโตซีส คุณต้องจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้น้อยกว่า 50 กรัมต่อวัน

และสิ่งสำคัญคือ คุณต้องรักษาปริมาณโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อให้กล้ามเนื้อไม่สลาย เมื่อคุณลดน้ำหนักจากการสูญเสียไขมัน นอกจากนี้ การคุมอาหารแบบคีโตเจนิค ยังไปปิดการทำงานของฮอร์โมนความหิว ในขณะที่เปิดฮอร์โมนความอิ่ม เช่น cholecystokinin (CCK) อาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูงอาจทำให้คุณรู้สึกหิวได้ ดังนั้นคุณควรจับคู่มื้ออาหารที่วางแผนไว้กับของว่างเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลาย อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนปานกลาง และไขมันสูง อาหารคีโตเจนิกสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้จริง และรวดเร็ว แต่จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ซึ่งเป็นเรื่องต้องระวังสำหรับบางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความดัน และระดับคอเลสเตอรอล จึงจำเป็นต้องตรวจค่าเหล่านี้ ก่อนเริ่มทานคีโต

ผลข้างเคียงของการลดน้ำหนักแบบคีโต

ข้อเสียของการลดน้ำหนักประเภทนี้คือการขาดวิตามินบางชนิด ซึ่งนำไปสู่การขาดสารอาหารที่อาจเกิดขึ้นได้ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาการท้องผูกหรือท้องร่วง โดยข้อเสียหลักๆ อาจแยกได้ดังนี้

• ไข้คีโต (Keto Flu) : เมื่อร่างกายเกิดภาวะคีโตซิส อาจทำให้รู้สึกเหมือนเป็นไข้ ไม่สบายตัว ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรืออ่อนเพลีย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเอง หากรู้สึกเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ แนะนำให้พบแพทย์
• การขาดสารอาหาร : การกินคีโตต้องลดปริมาณอาหารบางประเภท จึงอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญบางชนิดไม่เพียงพอ เช่น กากใย วิตามิน เป็นต้น อาจเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
• ท้องผูก ขาดน้ำและแร่ธาตุ : ร่างกายจะขับสารคีโตนบอดี้ส์ออกทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดน้ำและแร่ธาตุ และการรับประทานคาร์โบไฮเดรตปริมาณต่ำมากทำให้ร่างกายได้รับกากใยไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก
• กระหายน้ำบ่อย : เป็นอาการที่พบบ่อย เกิดจากการที่ร่างกายขับน้ำ ทำให้ผู้ที่กินอาหารแบบคีโตรู้สึกกระหายน้ำ จึงต้องคอยจิบน้ำเสมอๆ 
• อาการสมองล้า : อาการสมองล้า ความจำสั้นและไม่ค่อยมีสมาธิ แต่พบได้ไม่บ่อย
• ผิวมันเป็นสิว : การกินไขมันบางชนิดมากๆ ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง อาจก่อให้เกิดสิวได้
• โยโย่เอฟเฟคเมื่อหยุดกินคีโต การกินคีโตสามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไม่รู้สึก “โหย” เหมือนกับการลดน้ำหนักแบบอื่นๆ แต่เมื่อหยุดกินคีโตแล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม หรือรับประทานอาหารที่ไม่ใช่การกินคีโตเต็มรูปแบบ น้ำหนักตัวก็อาจกลับขึ้นมาอย่างเดิม อย่างที่เรียกว่า “โยโย่เอฟเฟค”  

คีโต กินอะไรได้บ้าง ?

อาหารคีโตเจนิคเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก ซึ่งช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนไปใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานหลัก เมื่อคุณจำกัดคาร์โบไฮเดรตในอาหารที่มี คาร์โบไฮเดรตต่ำ ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นคีโตซีส จากสถานะนี้จะเปลี่ยนจากการเผาผลาญน้ำตาล (คาร์โบไฮเดรต) เป็นการเผาผลาญไขมันในตับ เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าสิ่งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงบวกมากมาย เช่น ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง

โดยอาหารที่นิยมมากที่สุดได้แก่

• อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว หรือไขมันดี ส่วนใหญ่พบในพืชผักและปลาที่มีไขมันมาก เช่น ปลาทะเล แซลมอน อโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ถั่วเหลือง น้ำมันงา เป็นต้น
• อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว คือมีทั้งไขมันดีและไขมันเลว ส่วนใหญ่พบได้ในเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมและพืชบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ น้ำมันหมู ไก่ โยเกิร์ต เนย ชีส กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม เป็นต้น

อาหารคีโตเป็นหนึ่งในอาหารลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การกินอาหารแบบคีโตเจนิกอาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่จะปฏิบัติตาม เนื่องจากเราไม่สามารถกินคาร์โบไฮเดรตได้เลย หรือกินได้น้อยมากๆ เพราะห้ามเราพลาด หรือที่เรียกกันว่า “คีโตแตก” ร่างกายก็จะกลับไปดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตอีกครั้ง จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารจำพวก ขนม และแป้ง หรือแม้แต่ผลไม้ แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ยอมรับได้

การลดน้ำหนักแบบคีโต เริ่มต้นขึ้นมาเมื่อไร
การกินแบบคีโตได้รับการพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1920 เพื่อเป็นทางเลือกแทนการอดอาหารเป็นเวลานาน แนวคิดเบื้องหลังการควบคุมอาหารคือเมื่อจำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนจากการเผาผลาญกลูโคสเป็นเชื้อเพลิงเป็นการเผาผลาญไขมัน กระบวนการนี้สร้างคีโตนซึ่งทำหน้าที่เป็นพลังงานสำหรับเซลล์สมองและกล้ามเนื้อของคุณ ประโยชน์ของการทานอาหารแบบคีโตเจนิคมีมากมาย ช่วยลดน้ำหนัก ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล และอาจช่วยรักษาโรคเบาหวาน เป็นโปรแกรมการกินอาหารที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้คนลดน้ำหนักโดยการจำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต เป็นที่รู้จักกันว่าอาหารคีโตเจนิก อาหารนี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920 เพื่อรักษาโรคลมบ้าหมูในเด็ก จนกระทั่งปี 1990 เมื่อมันกลายเป็นอาหารลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยม อาหารคีโตแตกต่างจากอาหารอื่นๆ เพราะแทนที่จะลดแคลอรีและคาร์โบไฮเดรต มันจะลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตและแทนที่ด้วยไขมัน

ซึ่งในทางการแพทย์จะใช้เป็นหลักในการรักษาโรคลมบ้าหมูที่ควบคุมยากในเด็ก อาหารบังคับให้ร่างกายเผาผลาญไขมันมากกว่าคาร์โบไฮเดรต โดยปกติแล้ว คาร์โบไฮเดรตที่มีอยู่ในอาหารจะเปลี่ยนเป็นกลูโคส ซึ่งจะถูกขนส่งไปทั่วร่างกาย และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเติมพลังให้กับการทำงานของสมอง อ่านประวัติของการลดน้ำหนักแบบคีโต เพิ่มเติม Ketogenic diet

สรุป คีโต สามารถลดน้ำหนักได้จริงไหม

การลดน้ำหนักแบบคีโต สามารถลดน้ำหนักได้จริง และยังรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ต้องระวังสำหรับกลุ่มผู้มีปัญหาเรื่องความดัน และระดับคอเรสเตอรอล โดยทั่วไปแล้ว การกินแบบคีโต อาจมีผลข้างเคียงในระยะสั้น แต่ระยะยาว ยังไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพที่ชัดเจน ดังนั้นเมื่อลดน้ำหนักด้วยการทานแบบคีโตจนถึงเป้าหมายที่ต้องการแล้ว ก็ควรกลับมาดูแลสุขภาพ และกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั่นเองค่ะ

The post คีโต คืออะไร ? กินอะไรได้บ้าง กินคีโตสามารถลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 1 : ไส้หมูพะโล้ทอดกรอบ

วัตถุดิบ

• ไส้ใหญ่หมู 300 กรัม (ต้มสุกมาแล้ว)
• ชุดเครื่องเทศพะโล้และผงพะโล้
• ซีอิ๊วขาว 4-5 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทย 3 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 4-5 ช้อนชา

วิธีทำ

1.ใช้ผ้าขาวบางห่อเครื่องเทศพะโล้ ก่อนนำไปต้มเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเทศกระจาย
2.นำเครื่องเทศพะโล้และเครื่องปรุงใส่ลงไปต้มรวมกับไส้ใหญ่หมู
3.ใช้กรรไกรตัดไส้หมูพะโล้เป็นชิ้นพอดีคำ (ไม่ควรตัดเป็นเส้นเล็กเกินไป)
4.นำไส้พะโล้เข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้ไฟ 160 องศา ทอดเป็นระยะเวลา 15-20 นาที จะได้ไส้พะโล้กรอบ (สามารถปรับเพิ่มลดความร้อนและระยะเวลาได้) หากทอดในน้ำมันให้ใช้ไฟปานกลางในการทอด ก็จะได่ไส้พะโล้ทอดกรอบ หอม น่าทานมากๆ
5.โรยพริกไทยป่นเพิ่มความหอม

เคล็ดลับ / ข้อควรรู้

• ไม่ควรใส่ซีอีวดำหรือซีอิ๊วหวานเพราะมีส่วนผสมกากน้ำตาลทำให้ไวต่อความร้อน เมื่อนำไปทอดจะทำให้ไหม้ได้ง่าย
• สูตรนี้สามารถใช้ได้กับขาหมูพะโล้ทอด สามชั้นพะโล้ทอด
• หมั่นสังเกตในขั้นตอนการทอด หากใช้ไฟแรงจะทำให้ไส้พะโล้ไหม้ได้ง่าย
• น้ำจิ้มแนะนำ ได้แก่ น้ำจิ้มน้ำส้มสายชู(น้ำจิ้มขาหมู) , น้ำจิ้มซีฟู๊ด , น้ำจิ้มมะขาม….“ไส้หมูพะโล้ทอดกรอบ” เป็นเมนูทอดแสนอร่อยที่ทำง่าย สามารถอร่อยได้ทั้งเป็นกับแกล้มหรือเป็นอาหารจานหลักก็ได้แนะนำไปกินคู่กับข้าวสวยหรือข้าวต้มร้อนๆ ก็ฟินนนนมากกกก 

ขอบคุณสูตรและวิธีทำจาก คุณ Guyama 

มีกับแกล้มแล้ว มีแคปชั่นไว้โพสตอนเมารึยังง คลิกเลย แคปชั่นขี้เมา !!

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 2 : ยำไข่ดาว

วัตถุดิบ

• หอมใหญ่
• ต้นหอม
• ขึ้นฉ่าย
• หมูสับหรือหมูบด
• พริกสด
• น้ำพริกเผา
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ผงปรุงรส (ใส่ไม่ใส่แล้วแต่ชอบ)

วิธีทำ
1.โขลกพริกให้ละเอียด
2.หั่นผักยำ หอมใหญ่ มะเขือเทศ ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ปริมาณตามชอบ
3.รวนหมูสับให้สุก
4.เติมน้ำเล็กน้อย ใส่ซีอิ๊วขาวสักนิดนึงพอให้มีรส
5.ตอกไข่เตรียมไว้ หรือจะตอกตอนทอดก็ได้ แล้วแต่สะดวกครับ
6.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน รอน้ำมันเดือด
7.ใส่ไข่ลงไป ทอดให้สุก เอากรอบๆ เกรียมหน่อยๆ
8.หั่นไข่เป็นชิ้นพอคำ
ทำน้ำยำ
9.ใส่พริก / พริกเผา ลงไป ความเผ็ดแล้วแต่ชอบเลย * จะไม่ใส่พริกเผาลงไปก็ได้นะครับแล้วแต่ชอบ
10.ปรุงรสน้ำยำ มะนาว 3 ลูก น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส (ใส่ไม่ใส่แล้วแต่ชอบ) หรือกะเอาตามปริมาณที่ทำ
11. ใส่หมูสับ ไข่ดาว และผักต่างๆลงไป เป็นอันเสร็จ

กับแกล้มรสเด็ด กับเบียร์เย็นๆ ชิลล์ๆ กันไป ขอบคุณสูตรและวิธีทำจาก คุณ อเทวา

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 3 : ไก่ตุ้ม ลาบแซ่บ!!!

วัตถุดิบ

• ปีกไก่ท่อนบน 600 กรัม
• ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันสำหรับทอด
• (ใบมะกรูดใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำ
1.โขลกพริกให้ละเอียด
1. ตัดเอ็นข้อไก่ช่วงบนและรูดเอาเนื้อไก่ลงมาให้เป็นตุ้ม
2.ผสมเครื่องปรุง ซอสปรุงรส, น้ำมันหอย, ข้าวคั่ว, พริกป่น, แป้งข้าวโพด, เกลือ ลงในชาม
3.ใส่ไก่ที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากับส่วนผสม หมักทิ้งไว้ 30 นาที
4. นำไปทอด โดยใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง 180’C/7-10mins ให้มีสีทองหรือจนกระทั่งสุก
(หากต้องการใส่ใบมะกรูดให้ใส่ก่อนที่จะตักไก่ขึ้นแค่แป๊บเดียวค่า)

ไก่ทอดสูตรเข้มข้น รสชาติแบบคนไทย อร่อยแซ่บไปอีกแบบ ขอบคุณสูตรกับแกล้มง่ายๆจากคุณ แขมร อินเตอร์

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 4 : สามชั้นคั่วเกลือ

วัตถุดิบ

• หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
• กระเทียมสับหยาบ ¼ ถ้วย
• พริกขี้หนูสับหยาบ ½ ถ้วย
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ผงปรุงรส 2 ช้อนชา

วิธีทำ
1.เริ่มจากตั้งกระทะให้ร้อน
2.ใส่หมูที่หั่นเป็นขนาดพอดีคำไว้แล้วลงไป สักพักน้ำมันหมูจะเริ่มไหลออกมาเอง
3.ทอดหมูสามชั้นต่อไปจนเหลืองดีแล้วก็นำขึ้นพักไว้
4.ต่อไปก็นำพริกและกระเทียมลงคั่วในกระทะใบเดิม ผัดไปมาให้หอมฉุย
5.นำหมูที่เราทอดเอาไว้แล้วลงคั่วให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและผงปรุงรส เสร็จแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

รับทานเป็นกับแกล้มพร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ  ฟินสุดๆ พูดเลย

---

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 5 : กุ้งห่อเบคอน

วัตถุดิบ

• น้ำมันพืชคำสำหรับทอด
• กุ้งสด 7 ตัว
• เบคอน 7 ชิ้น
• ไม้กลัดหรือไม้จิ้มฟัน

วิธีทำ
1.ล้างทำความสะอาดกุ้ง เด็ดหัว แกะเปลือกไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก
2.นำเบคอนมาพันกุ้งให้แน่น ใช้ไม้กลัดไว้ไม่ให้หลุด (ถ้าหากเบคอนชิ้นยาวมาก แนะนำให้ผ่าแบ่งครึ่งแล้วค่อยนำมาพันกุ้งนะ) ไม่ต้องปรุงเลยก็ได้นะเพราะเบคอนเค็มอยู่แล้ว
3.หันมาตั้งกระทะไฟกลาง เทน้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนได้ที่ ก็ใส่กุ้งที่พันในเบคอนแล้วลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ คู่กับซอสหรือน้ำจิ้มไก่ก็ได้จ๊ะ

---

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 6 : ยำหมึกกรอบแมงกระพรุน

วัตถุดิบ

• ปลาหมึกกรอบ 2 ถ้วย
• แมงกระพรุน 2 ถ้วย
• พริกแดงจินดาสับ 3 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• ซอสพริกศรีราชา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
• ผงชูรส ¼ ช้อนชา
• หอมแขก ⅓ ถ้วย
• มะเขือเทศ ⅓ ถ้วย
• กระเทียมสไลด์ 2 ช้อนโต๊ะ
• มะนาวหั่นซึก 3 ชิ้น
• ผักชีโรยหน้า 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผสมน้ำยำด้วย พริกแดงจินดาสับ กระเทียมสับ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา ผงชูรส ซอสพริกศรีราชา คนผสมให้เขากัน
2. ลวกปลาหมึกกรอบ แมงกระพรุน ใส่ลงคลุกเคล้าในน้ำยำ ใส่หอมแขก มะเขือเทศ กระเทียมสไลด์ มะนาวหั่นซีก คลุกเคล้าอีกครั้ง
3. จัดเสิร์ฟตักใส่จานโรยหน้าด้วยผักชี

---

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 7 : กุ้งแช่น้ำปลา

วัตถุดิบ

• กุ้งสด 400 กรัม
• น้ำปลา  2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมกลีบใหญ่  5 กลีบ (หั่นเป็นแว่นตามขวาง)
• ใบสะระแหน่ 8-10 ใบ
• มะระจีน 1 ลูก
• ส่วนผสมน้ำจิ้ม
• พริกขี้หนูสวน 40 กรัม (ชอบเผ็ดใส่เพิ่มได้ค่ะ)
• กระเทียมไทยกลีบเล็ก  30 กรัม
• รากผักชี 3 ต้น
• น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• กะหล่ำปลีซอยบาง ๆ ตามชอบ
• ใบสะระแหน่ไว้แต่งจาน
• กระเทียมหั่นตามขวางไว้แต่งจาน

วิธีทำ
1. เตรียมน้ำจิ้มสำหรับราดตัวกุ้ง โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มรอเสิร์ฟพร้อมกุ้งแช่น้ำปลา
2. ล้างมะระ ผ่าตามยาว คว้านไส้ออก จากนั้นหั่นเป็นแว่นๆ บางๆ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้
3. ล้างทำความสะอาดกุ้ง ปอกเปลือก เด็ดหัว ไว้หาง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก  แล้วแช่ในโซดาประมาณ 1-2  นาที กุ้งจะกรอบอร่อยขึ้นค่ะ  
สุดท้าย นำกุ้งไปจัดเรียงใส่จานที่รองด้วยกะหล่ำปลีหั่นฝอย แล้วราดด้วยน้ำปลาให้ทั่วตกแต่งด้วยกระเทียม และใบสะระแหน่ และพริกขี้หนู นำเข้าแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด  ก่อนเสิร์ฟราดน้ำจิ้มให้ทั่วยกเสิร์ฟได้เลย

---

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 8 : หมูมะนาว

วัตถุดิบ

• เนื้อหมูหั่นชิ้นบางๆ ขนาดพอดีคำ 300 กรัม
• ก้านคะน้าล้างให้สะอาดแช่ในน้ำแข็งเตรียมไว้
• มะนาวฝานบาง ๆ สำหรับแต่งจาน

ส่วนผสมน้ำยำ

• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสดหั่นบาง 3 กลีบ

วิธีทำ
1.โขลกพริกขี้หนูสวน และกระเทียมให้ละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล ชิมรสตามด้วยกระเทียมสดหั่นบางแล้วพักไว้
2. ตั้งหม้อต้มน้ำบนไฟกลางจนเดือดจัด ใส่หมูลงไปลวกพอสะดุ้งไม่ต้องสุกจัดเพราะเนื้อจะเหนียวทานไม่อร่อยค่ะ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเสร็จแล้วจัดหมูใส่จาน แต่งด้วยมะนาวฝาน แล้วราดด้วยน้ำยำที่เตรียมไว้ ยกเสิร์ฟพร้อมกับก้านคะน้าแช่น้ำแข็ง

---

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 9 : หัวหอมทอด

วัตถุดิบ

• หอมใหญ่ 2 ลูก
• แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง
• แป้งมันบด 4 ช้อนโต๊ะ
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 4 ช้อนโต๊ะ
• เกล็ดขนมปัง
• น้ำโซดาเย็นจัด 1/2 ถ้วงตวง
• น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง

วิธีทำ

• นำแป้งทั้งสามอย่างร่อนเข้าด้วยกัน
• ใส่โซดาลงไปในแป้งที่ร่อน คนให้เข้ากัน หากแป้งข้นไปก็เติมโซดาลงไปเล็กน้อย ระวังไม่ให้แป้งเหลวเกินไปหรือข้นจนเกินไป
• หั่นหอมใหญ่ให้เป็นแว่นๆ แล้วนำไปชุบกับแป้งให้ทั่วชิ้น และชุบเกร็ดขนมปังจนเกรฌดขนมปังติดหอมใหญ่ทั่วทั้งชิ้น ทำแบบนี้ให้หมด ใส่จานพักไว้รอลงทอด
• ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเปิดไฟปานกลางเพื่อไม่ให้หอมใหญ่ไหม้ เมื่อน้ำเริ่มร้อนก็เอาลงไปทอดได้เลย พลิกหอมใหญ่ไปมา ให้สุกเหลืองทั่วทั้งสองด้าน
• ทอดเสร็จนำขึ้นมาพักไว้บนตะแกรง กินคู่กับซอสมะเขือเทศและมายองเนส

---

กับแกล้มง่ายๆ เมนูที่ 10 : ยำก้านคะน้า

วัตถุดิบ

• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
• ก้านคะน้า 150 กรัม
• กุ้งขาวลวก 100 กรัม
• หอมแดงซอย ตามชอบ

วิธีทำ

1.ลวกก้านคะน้ากับกุ้งขาวให้พอสุก นำคะน้าที่ลวกมาแช่น้ำแข็งนิดหน่อย จะได้กรอบอร่อย
2.ทำน้ำยำแยกไว้ก่อนโดยใส่ น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และ พริกขี้หนูซอยในปริมาณตามชอบ
3.ใส่ก้านคะน้าและกุ้งขาวที่ลวกไว้แล้ว เทใส่ลงไป คลุกเคล้สให้กันจากนั้นก็ใส่หอมแดงเป็นขั้นตอนสุดท้าย

เรียบเรียงโดย Pakmud.com

The post 10 เมนู กับแกล้มง่ายๆ แกล้มเบียร์ก็ได้ แกล้มเหล้าก็ดี appeared first on Pakmud.com รวมแคปชั่น คำคม ไอเดียตั้งชื่อ รูปภาพ รูปการ์ตูน แนะนำหนัง ซีรีย์.